บทกวี
ณ ร่มเงาแห่งต้นมะม่วงหิมพานต์
เขามีมุมยามพลบสงบนัก ได้นั่งพักผ่อนเพลาความเหงาบ้าง แดดละมุนสะท้อนแสงไปแต่งวาง ใบไม้หล่นเคียงข้าง, เขาค้างคำ มองแถวมดขนเสบียงเรียงแถวผ่าน เขานั่งอ่านงานกลอน ถอนใจต่ำ บ้างหดหู่กับรสวรรณกรรม ได้ดื่มด่ำ ณ ค่ำพลบ มาหลบมุม ณ ร่มเงามีมุมงาม มีค่ำสวย ลมระรวยรินอ่อน หญ้าอ่อนนุ่ม พลบสนธยาสวยโศก แผ่ปกคลุม ละมุนกลุ่มกลิ่นกรุ่น ละมุนนัก เขาครุ่นครวญถึงโลก นรก สวรรค์ งานของวันกัดกร่อน ร้อนกระอัก เพื่อหนีโลกร้อนรุม สร้างมุมน่ารัก หลบมาพักอ่านกลอน พักผ่อนใจ สูดกลิ่นอายภายใต้เงา เขาได้พบ มุมสงบพลบสนธยา น่ารักใหม่ หอมแดดค่ำ เย็นเงาร่ม ลมลูบไล้ ณ ภายใต้ร่มหิมพานต์ - อ่านชีวิต พลิกหน้าอ่านวรรณกรรมดื่มด่ำรส ซึ้งบางบท บางขณะคำสะกิด โดนตรงใจ เจ็บยิ่ง จริงกว่าคิด ให้พินิจชีวิตจริง ยิ่งกว่านิยาย ผืนหญ้านุ่ม มุมสงบยามพลบหนึ่ง รสซาบซึ้งงดงามแห่งความหมาย กับงานเขียน เขาค้นหาหน้าสุดท้าย กับชีวิตมีความตายให้หมายความ ที่วนเวียนเพียรว่ายวาด ปรารถนา เฝ้าค้นหาฟากฟ้าใด เพียรไต่ถาม งานของวัน ฝันของใจ ไร้นิยาม ต่างไร้รูปและไร้นาม โมงยามใด ที่หมกมุ่น ล้วนฝุ่นผงหลงยึดติด กระจิริดชีวิตหนึ่ง ถึงโลกใหม่ ย่อยสลายนามและรูป ดับวูบไป ชีวิตเขา ชีวิตใคร ต่างไร้นิยาย.
สานิตย์ สีนาค