บทกวี
แสน เสียดาย
ฉันมองเห็นทุกอย่างนั้นว่างเปล่า มีเพียงเงาวูบวับแล้วดับหาย ฉันเห็นตนอ่อนเพลียแสนเสียดาย หลงงมงายในตัวตนจนพ้นวัน ทะนงตนในระหว่างความว่างเปล่า มึนและเมาเห็นงามในความฝัน เพลินไขว่คว้าสายลมพร่างพรมพัน มิรู้ทันทัณฑ์โทษพิโรธร้าย เห็นสรรพสิ่งโสโครกโชคประสิทธิ์ เห็นภัยพิษชวนชื่นหื่นกระหาย เห็นสายทางพุทธธรรมเพียงน้ำลาย เห็นความหมายนิพพานปานไส้เดือน ฉันเพลินในใจโลกอันโศกสุด มิรู้หยุดย่างในเปลวไฟเฉือน ไร้สติไร้เหตุผลไร้คนเตือน หรือฟั่นเฟือนเกินจะใฝ่ในทางดี จนที่สุดเท้าที่ย่างก็ร้างลีบ ใจถูกบีบให้ทรุดหยุดกับที่ เนื้อหนังอิ่มเริ่มแล้งแห้งทุกที วัน-เดือน-ปี...ย่อยยับนอนนับวัน คนเคยรักเริ่มลาไม่มาสู่ คนเป็นคู่เอือมระอาไม่กล้าหัน คนเป็นญาติกลับกลายหดหายพลัน แม้แต่ฉันก็รำคาญการเป็นตน ฉันมองเห็นทุกอย่างว่างเปล่าแล้ว ไม่มีแก้วไม่มีอะไรในทุกหน สิ่งสำคัญเวลาไม่มีให้คน ไร้เหตุผลไร้มรรคหลักพุทธธรรม ฉันเห็นเท่าที่กล้าของตาเนื้อ แต่จิตเพื่อตาในกลับไม่ฉ่ำ เข็มนาทีก็เคลื่อนเหมือนใจดำ ฉันเจ็บช้ำ...แสนเสียดายในเวลา ฯ