บทกวี

สวนโมกข์สมัยใหม่ จู พเนจร

by จู พเนจร @January,05 2008 18.26 ( IP : 124...72 ) | Tags : บทกวี
photo  , 909x1575 pixel , 90,835 bytes.

คำนำ
สวนโมกข์สมัยใหม่ (พิมพ์ครั้งแรก โดยสำนักพิมพ์เพื่อนเกลอ)

1)

เพื่อนซึ่งได้รู้จักมักจี่กันคนหนึ่งเอ่ยถามผมว่า "สวนโมกข์สมัยใหม่" นี้หมายถึงเช่นไร แค่เพียงเห็นชื่อเรื่องก็เกิดความสนใจใคร่อ่านเสียแล้ว (ด้วยเขาเองเป็นผู้หนึ่งที่สนใจใฝ่ศึกษาธรรมะของท่านพุทธทาส ภิกขุ) หมายความว่าเป็นเรื่องราวหรือยุคสมัยหลังจากสิ้นท่านพุทธทาสแล้วใช่หรือไม่

ในอีกนัยยะหนึ่ง ธรรมะของท่านพุทธทาสนั้นนับว่ามิเคยล้าสมัย หากแต่กลับทันสมัยอยู่เสมอ
คำว่าสมัยใหม่จึงมีแง่คิดชวนสนใจ

ผมกล่าวของอกขอบใจเขาในเรื่องนี้ และรู้สึกตื้นตันใจลึกๆ กอปรด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวขึ้นมาอย่างที่สุด (ด้วยความไม่นึกมาก่อนในแง่มุมดังกล่าว ซึ่งนับว่าน่านใจทีเดียวในกว่าทศวรรษการจากไปของท่าน) ประการแรก ความรู้ความสามารถของผมนั้นคงไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมนั้นได้เลย อย่างน้อยก็ในขณะนี้

สำหรับประเด็นนี้ เราเองเห็นพ้องกันว่าออกจะเป็นโครงสร้างระดับมหภาคอยู่จริงๆ ถ้าอย่างนั้น "สวนโมกข์สมัยใหม่" คือนัยยะใดเล่า

ผมบอกเขาว่า ผมมองสวนโมกข์ด้วยนัยยะของปุถุชนคนหนึ่ง ที่พึงมองได้จากเวล่ำเวลาที่ผ่านมา
เสมอคนๆหนึ่งที่ได้มารับรู้เรื่องราวในช่วงเวลาหนึ่งนับจากนี้ และถ่ายทอดออกมา ดังกล่าวผมก็คิดว่าได้สำคัญตนไว้ไม่น้อยแล้ว ว่านี่คือ "สวนโมกข์สมัยใหม่"

2) อย่างไรก็ตาม เป็นความจริงที่ว่าผมมีโอกาสได้ไปสวนโมกข์เมื่อครั้งท่านพุทธทาสไม่ดำรง(กาย)อยู่แล้ว และเป็นความจริงที่ว่าธรรมะตามแนวทางคำสอนของท่านพุทธทาสเป็นเรื่องที่ไม่ล้าสมัยเลย แม้กาลจะเลยล่วงไปเพียงใด ท่านพุทธทาสจะดำรงอยู่แล้วหรือไม่

และสวนโมกข์นี้เป็นที่ซึ่งใครไปใครมาก็มักจะเล่าขานถึงด้วยความชื่นชมยินดีเสมอ
จนเป็นที่เลื่องลือระบือไกลไปว่า ได้น้อมนำตนสู่ความสงบเย็น
ภายใต้ร่มเงาของธรรมชาติ และความเรียบง่ายธรรมดา

ความเรียบง่ายธรรมดาเช่นนี้ ก็คือธรรมะ และธรรมะอันเรียบง่ายเช่นนี้ ก็คือธรรมชาติ การได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติจึงเป็นหนทางที่จะน้อมนำตนเข้าสู่ธรรมะ ธรรมะอันจะน้อมนำ "คน" มาสู่ความเป็น "มนุษย์" คือผู้มีจิตใจสูง ต่อไป

3) สวนโมกขพลาราม หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม "สวนโมกข์" นี้ตั้งอยู่ที่วัดธารน้ำไหล อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อตั้งโดยท่านพุทธทาส ภิกขุ (อริยะ)สงฆ์ฝ่ายเถรวาทรูปหนึ่ง เมื่อครั้งปีพุทธศักราช 2475 ผู้ซึ่งในกาลต่อมาได้ปฏิวัติธรรมจารีตอันล้าสมัยต่างๆประดามีเข้าหาแก่นธรรมโดยตรง อันได้แก่ ลด ละ เลิก "ตัวกู ของกู" เป็นหลักใหญ่หลักเดียว

ธรรมะข้อที่ว่าเป็นการสอนหรือชี้ลงไปแบบตีแสกใจนี้ แม้เป็นสิ่งที่ปุถุชนคนทั่วไปอาจแสลงใจ แต่ท่านก็ไม่ได้นำข้อนี้มายกเว้นหรือเกรงใจใคร ด้วยเพราะท่านเองไม่ได้เห็นว่าจะต้องมี "ตัวใคร" หรือ "ของใคร"ให้ต้องถือหรือเกรงใจนั่นเอง

เพราะท่านเห็นว่านอกจากคนหรือพระจะสอนธรรมะได้แล้ว
ธรรมชาติเป็นเสมอครูสอนธรรมะได้เป็นอย่างดีด้วย แม้เรามีใจที่คอยเพ่งพิจารณาด้วสงบรำงับแล้วไซร้ ก็จะเห็นสิ่งเหล่านั้นมีชีวิตจิตใจ ความรู้สึกนึกคิด ดังที่ท่านกล่าวไว้เสมอว่า "ที่นี่ต้นไม้ใบหญ้าก็พูดได้"

สถานที่ปฏิบัติธรรมของสวนโมกข์จึงอิงแอบแนบอยู่กับธรรมชาติ และความเรียบง่ายธรรมดาเสมอมา งดเว้นพิธีรีตองต่างๆ โดยเฉพาะที่เอิกเริกทั้งหลายลงเสีย แม้กอปรด้วยกุศโลบาย ก็ไม่เป็นด้วยความใหญ่โตโอฬารเป็นสำคัญ ที่เรารู้จักกันดี เช่น ลานหินโค้ง โรงปั้น ธารน้ำไหล สระนาฒิเกร์ มหรสพทางวิญญาณ เป็นต้น และการกวาดใบไม้ หรือเดินป่า เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เรียบง่าย สมถะ ติดดินอยู่กับธรรมชาติทั้งสิ้น

ยกเว้นบ้างก็แต่โรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งเป็นสถานที่ประดับรูปปริศนาธรรมไว้ทั้งภายในและภายนอก กับโบส์ถทรงเรือหลังหนึ่งที่ทำไว้เป็นสัญลักษณ์บางประการเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อกอปรกิจกรรมดังกล่าวให้ลุล่วงไป ไม่ใช่สิ่งพึงยึดติดอันใด

การได้เดินชมนกชมไม้ เพ่งมองสายน้ำไหล นั่งแนบแอบหินติณชาติ และการกวาดใบไม้ก็ดี ท่านพุทธทาสบอกว่านี้คือการปฏิบัติธรรม ฝึกจิตสมาธิอีกรูปแบบหนึ่ง ให้พึงมีทั้งฆารวาสและบรรพชิต สิ่งที่เราจะได้จากการนี้อย่างหนึ่งคือความโล่งโปร่งเบาสบาย
ดังที่ท่านเอ่ยเอื้อนอยู่เสมอว่าคือ นิพพานชั่วคราว หรือนิพพานชิมลาง

สำหรับสถานที่ปฏิบัติธรรม สมาธิ วิปัสสนาโดยตรงเป็นหมู่คณะ นับเป็นการปฏิบัติอีกขั้นหนึ่ง คือ "สวนโมกข์นานาชาติ"
ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งออกไป ซึ่งชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะไปพำนัก การไปที่นี่จะต้องเตรียมตัวพร้อมสักหน่อย ผมเองก็จะหาโอกาสไปสักครั้ง

นอกจากปฏิบัติได้กับตนแล้ว
เรื่องราวได้ถูกถ่ายทอดบันทึกไว้โดยผู้ที่เคยไปสวนโมกข์นี้ในรูปหนังสือต่างๆ ซึ่งเกือบทั้งหมดจะรวบรวมและหาอ่านได้ที่ "ห้องสมุดพุทธทาส" ที่ตั้งขึ้นตามที่ต่างๆ นั้น จะทำให้รู้จักสวนโมกข์มากขึ้นตามแง่มุมที่ต่างออกไป

และแน่นอนว่าแง่มุมที่ต่างออกไป มุมมองที่ขยายกว้างออกไปในเรื่องราวเหล่านี้ย่อมเป็นอานิสงส์สืบต่อไปกันไปด้วย สำหรับผมเองมีโอกาสได้เก็บบันทึกเรื่องราวที่ได้พบพานมาไว้ในรูปแบบของกวีรจนาไว้ ณ ที่นี้

หวังว่าท่านคงได้เสพอรรถรส เรื่องราวจาก "สวนโมกข์สมัยใหม่" นี้ไว้ตามสมควร และได้พบกับอีกรูปรอยหนึ่งในไม่ช้าไม่นานนี้ต่อไป.

Comment #1
Posted @January,05 2008 18.30 ip : 124...72

ผมกำลังรวบรวมปรับแก้ สวนโมกข์สมัยใหม่ บางส่วน
และกำลังจัดพิมพ์(ทำมือ)เป็นครั้งที่ 2 ครับ
จะทยอยนำมาโพสต์ครับผม

Comment #2
Posted @July,08 2008 18.56 ip : 222...225

คำนำ (ในการพิมพ์ครั้งที่ 2)

อนุทิน อนุธรรม สวนโมกข์สมัยใหม่

หนังสือ สวนโมกข์สมัยใหม่ พิมพ์ครั้งแรก
(แบบทำมือ จำนวน 50 เล่ม) ในปี 2547
ในครั้งนั้นใช้ชื่อนำเล่มว่า กวีรจนา
ด้วยเหตุที่จะหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า รวมบทกวี หรือ กวีนิพนธ์ เป็นหลัก เพราะคิดว่าด้วยลักษณะงาน และระดับตัวงานเองยังไม่ถึงขั้น แต่ก็นึกอยู่ว่า กวีรจนา ก็ยังไม่เหมาะเจาะนัก แต่อาจเป็นเพราะว่ามีบทรำพึงรำพันประกอบอยู่ในชิ้นงานด้วย และงานก็ไม่ถึงกับขี้ริ้วขี้เหร่นัก จึงคิดว่าน่าจะพอใช้ไปก่อน
ในคราวปัจจุบันทันด่วนนั้น

ในการพิมพ์ใหม่ ครั้งที่ 2 (ปรับปรุงใหม่) นี้
เมื่อมาอ่านทบทวนแล้ว ก็เห็นสมควรว่า
อนุทิน (สมุดบันทึกประจำวัน)
อนุธรรม (ธรรมะขั้นต้น ชั้นประถม ฯลฯ)
น่าจะเหมาะเจาะเหมาะตรงดี กว่า
เพราะงานส่วนใหญ่ในตอนนั้นก็คือ การบันทึกแบบฉับพลันทันที ไม่ถึงขั้นเต๋า หรือ เซ็น อะไรแน่ (แต่หากจะเป็นก็เป็นธรรมะแบบปรัชญาคำสอนแข็งๆ ทื่อๆ เชยๆ มากกว่า)

อย่างไรก็ตามแต่ อาจจะด้วยภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติ
ในรั้วรอบขอบขัณฑสีมา ประสบการณ์ใหม่ๆของชีวิต
กับภาวะของจิตใจที่ค่อนข้างโปร่งเบา
ทำให้ได้งานในลักษณะหนึ่ง ชุดหนึ่งขึ้นมา โดยไม่ได้คิดอะไร

อนุทิน อนุธรรม สวนโมกข์สมัยใหม่ เล่มนี้ เป็นก้าวเล็กๆอีกก้าวของคนๆหนึ่ง ที่ได้มีโอกาสข้องแวะกับธรรมะ
และศิลปะวรรณกรรมอยู่เล็กน้อย เพื่อน้อมนำสิ่งดีงามสร้างสรรค์มาสู่ตน และอื่นๆสืบไป

แสดงความคิดเห็น

« 3970
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซท์
"ก๊วนปาร์ตี้"
เว็บไซท์นี้เปิดมาเพื่อ เป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับบันทึกเรื่องราว ทางด้านวรรณกรรม ทุกรูปแบบ ท่านสามารถส่งบทความ - เรื่องสั้น - บทกวี เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันอ่าน โดยคลิกส่งได้จากด้านล่างนี้
คลิกเพื่อ >> ส่งบทความ | ส่งเรื่องสั้น | ส่งบทกวี | ปกิณกะ