บทกวี
ท้องฟ้าขังแสงดาว
โพ้นระยิบ แสงระยับ – เขานับดาว
ทบทวนภาพเก็บเก่า ผ่าวผ่านผัน
กลางราตรี ดึกนี้ไม่มีจันทร์
ดวงดาวนั้นระยิบพริบ กะพริบพราย
นกกลางคืนโผผ่าน แหวกม่านมืด
มะพร้าวไหว เอื่อยอืดยืดยาดส่าย
หมอกทะเลโบราณ หว่านระบาย
ลมเคลื่อนคลื่น รูปทราย – สลายรอย
นั่นใช่ไหม? – ว่ายวาดปรารถนา
ห้วงเวลาแผ่วผ่าน พานถดถอย
ลบริ้วรอย ชีวิตอันนิดน้อย
ซึ่งคว้างคอย ระเหิดลม – ลมรำเพย
วูบเปลี่ยนผ่าน การรู้โลกกู่ก้อง
ตั้งโจทย์ฟ้อง ภาคหน้า ถ้อยเฉลย
เหมือนจะลับเลือนห่าง เริดร้างเลย
เคลื่อนเข้าเกยหาดทราย ชายทะเล
โลกลับลา คว้างคอย รูปรอยนั่น
ลมลอยฝัน ชีวา ทรายว้าเหว่
เพียงลำพัง โล้เรือดึก ผนึกคะเน
ลมหักเห ชเลลึก คึก, เร่งเร้า
ปรารถนาเขียนทราย เพื่อถ่ายทอด
ได้โอบกอดห่มโลก พ้นโศกเศร้า
กระไรเลย! วิบดาวไกล ไหวบางเบา
เรือชีพคว้าง ว่างเปล่า – เงาตะเกียง
คลื่นเคลื่อนผ่าน กระจิริดชีวิตหนึ่ง
ฝันรำพึงถึงรำพัน สวรรค์เบี่ยง
เรือ ทะเล เผาชลา ฝ่าลำ, เรียง
ดั่งภาพเพียงรูปดาว – เขลาชีวิต
อย่างไรเถอะ! ชีพหนึ่ง ถึงเปลี่ยวเปล่า
โลกมิโดดเดี่ยวเขา เฝ้าจับผิด
ชักสมอ ลงเรือ! เผื่อทางทิศ
กระจิริด วารหนึ่งถึงดาวไกล
โพ้นระยิบ หมื่นดาว พราวระยับ
เขานอนนับ วิบฝัน วาบสั่นไหว
ดาววิบนั้น ฝันพริบนี้ พลีดวงใจ
ชีพหนึ่งใช้เสียให้คุ้ม เถอะลุ่มลึก!
สานิตย์ สีนาค