บทกวี
บทกวี : บาดแผลเราต่างสรรค์สร้างโลก
บาดแผลเราต่างสรรค์สร้างโลก
ทางชีวิตผิดพลาดมีบาดแผล
ชนะแพ้ใช่สิ่งวัดคำตัดสิน
หลังศึกคุดุเดือดเลือดหลั่งริน
คือทั้งสิ้นแห่งฝันอันสวยงาม
โลกที่ใครได้สัมผัส ณ บัดนี้
เหมือนเป็นที่กรีฑากีฬาสนาม
ให้ลำพองประลองยุทธ์จุดสงคราม
เพื่อถึงนามความฝันอันระบือ
เขาทำงานเพื่ออะไรใครก็รู้
เพื่อตัวกูเพื่อนพร้องพี่น้องหรือ
เพื่อชื่อเสียงเกียรติยศกฎเลื่องลือ
เพื่อยึดถืออุดมการณ์ฐานมวลชน
หากร่องรอยหลักฐานการมุ่งมั่น
สื่อสร้างสรรค์พิเศษสมเหตุผล
แลดูด้วยดวงตาก็น่ายล
หรือด้วยกลการใดก็ใช่เลย
ผลประโยชน์เพื่อส่วนรวมร่วมทุกข์สุข
คอยปรับทุกข์เมื่อยากไร้ใช่เมินเฉย
ความจริงใจไม่เลือกกาลหวานภิเปรย
ความคุ้นเคยกันเองเพลงไมตรี
นั่น.!.จึงคือผู้แทนแสนพิสุทธิ์
ผู้คอยจุดเทียนชัยให้สุกศรี
มีดวงใจให้มวลชนท้นทวี
โดยไม่มีเงื่อนไขให้คล้อยตาม
หากเป็นเหลือบเคลือบแฝงแสร้งสรรค์สร้าง
ทำทุกอย่างหวังผลคนเขาหยาม
หงายหน้ามือสำรวยอ้างสวยงาม
แต่หลังมือลุกลามโรคเรื้อรัง
มิโปร่งใสใจคด...ทรยศชาติ
แต่รวมญาติมิตรเค็มคล้ายเข้มขลัง
สร้างเครือข่ายร้าวสรวมร่วมพลัง
เพื่อถึงคลังอำนาจอุบาทว์ชน
มีเหลี่ยมเล่ห์หลายหลากจนยากตริ
มันชำนิจนเพทหลักเหตุผล
“โยนิโสมนสิการ” อาจคร้านพล
แต่ทุกคนแตกต่างย่อมห่างใจ
จึงแบ่งพรรคกักพวกสะดวกจิต
จึงแผลงฤทธิ์อิทธิแผ่แต่อยากได้
จึงมิรักสามัคคีคลี่ห่วงใย
คล้ายอยากเห็นเลือดไทยไหลอาบดิน
หวนคิดจิตน้อมถนอมรัก
ปกปักรักษาสุทธาสินธุ์
คำร้องผองชนยลยิน
ทั้งสิ้นคือผู้นำทำการ
ตะวันฉายแสงงามเมื่อยามเช้า
เผยภาพเงาเคลื่อนไหวในสถาน
พ่อแม่พร้อมหัวใจไปทำงาน
ลูกสืบสานฝันใฝ่ไปโรงเรียน
พ่อแม่เหมือนหาเช้ามากินค่ำ
ลูกก็ร่ำเอาการฝึกอ่านเขียน
ตะวันคล้อยคล้ายครบจบพากเพียร
ต่างกลับมาจุดเทียนทอสายใย
หนึ่งครอบครัวนั้นสรรค์สร้างอย่างงามง่าย
รวมหลายหลายก็หมดจดงามสดใส
เป็นชุมชนก็ช่วงโชติปราโมทย์ใจ
หรือรวมไทยก็สุดเขตประเทศงาม
ต่างได้ทำหน้าที่ที่เหมาะสม
ต่างชื่นชมเสรีไม่หนีข้าม
ต่างไม่ดื้อซื่อตรงต่อโมงยาม
ต่างคอยปรามกฎเหยียบเอาเปรียบคน
ต่างพึ่งพาอาศัยดวงใจน้อม
ต่างรู้ถ่อมพร้อมใจในเหตุผล
ต่างมั่นรักสามัคคีที่แยบยล
ต่างกุศลผลบุญคุณธรรม์
ต่างเชิดชูชาติไทยให้วิจิตร
ต่างบูชิตคนดีที่สร้างสรรค์
ต่างเทิดทูนล้ำค่าสถาบัน
ต่างร่วมกันฟันฝ่าถ้ามีภัย
ชาติไทยจึงสงบพบสุขศานติ์
สืบร้อนหนาวยาวนานไปถึงไหน
แผ่นดินธรรมแผ่นดินทองของคนไทย
จักยิ่งใหญ่ไพศาลชั่วกาลกัลป์
แม้นเดิมทีที่ผิวไม่มีแผล
ครั้นถูกแล่แผลร้าวย่อมหนาวสั่น
เวลาย่อมคลี่คลายแผลหายพลัน
แผลเก่านั้นอาจเตือนให้ไม่เผอเรอ
ไทยนี้รักสงบ
ข้าวปลาอาหารผลไม้
เมืองไทยอุดมสมบูรณ์เสมอ
น้ำจิตมิตรไมตรีเหมือนเพื่อนเกลอ
เลิศเลอศิลปวัฒนธรรม
กินดีอยู่ดีมีสุข
หลายยุคเป็นปลื้มดื่มด่ำ
ถ้อยทีถ้อยอาศัยใจนำ
งามล้ำธรรมเนียมประเพณี
ไทยจึงสงบราบคาบ
เผยภาพอ้างได้ในทุกที่
ไทยจึงร่มเย็นเห็นทวี
ยังมีหลักฐานยืนยันมา
ผู้ใหญ่ทำเป็นเช่นผู้ใหญ่
ผู้น้อยก็ละไมละเมียดค่า
ผู้กลางก็วางตนเหตุผลพา
ผู้หน้าผู้หลังระวังระไว
วัด บ้าน สถานบันการศึกษา
คือแหล่งภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่
ควรแต่เชิดชูค่าประชาไทย
รวมจิตใจยืนหยัดพัฒนา
เอาแผลเก่าเราทั้งหลายเป็นสายรัก
ผูกสมัครสามัคคีที่ควรค่า
รวมพลังไทยเป็นเช่นมรรคา
ปรารถนาให้เห็นเป็นหนึ่งใจ
อันที่จริงสิ่งที่ถามคือความจริงใจ
พวกเราอยู่กันตามประสาประชาชน
มิรู้จักความยากจนเป็นแบบไหน
เรามีกินมีกันทุกวันไป
หมูแลกไก่ ไข่แลกปลา มาช้านาน
มีฟักแฟงแตงกวามาแลกเนื้อ
มีมะเขือพริกมะนาวแลกข้าวสาร
มีน้ำจิตแลกมิตรใหม่ใจเบิกบาน
คือวิถีชาวบ้าน “สยาม” หรือ “ไทย”
เราอยู่กันแบบซื่อซื่อถือสัจจะ
เสียสละเพื่อส่วนรวมร่วมแก้ไข
สันติธรรมนำทางสร้างวินัย
มิเคยเหยียบน้ำใจใครให้จมดิน
เราถือกฎแห่งกรรมนำชีวิต
พุทธธรรมนำจิตประณีตศิลป์
ถ้อยทีถ้อยอาศัยใจโบยบิน
น้อมกมลยลยินยุติธรรม
เราอยู่กันตามประสาประชาชน
ซึ่งอดทนในลมกล้าบ้าระห่ำ
ของชนชั้นที่เรียกหรูว่าผู้นำ
รอรับกรรมจำนนทุกหนทาง
แม้อยากถามว่าท่านบันดาลอยู่
ทำเพื่อผู้ยิ่งใหญ่หรือใครบ้าง
เสียงของคนส่วนใหญ่ไยจืดจาง
เราเคว้งคว้างอย่างไรไยเฉยเมย
เราก็ได้แต่คิดสิทธิ์ขมขื่น
มิอาจยื่นภาษากล้าเปิดเผย
ด้วยหาเช้ากินค่ำตอกย้ำเย้ย
จนปล่อยเลยตามเลย..โอ้เวรกรรม ฯ
เถิด ! มิจฉาทิฐิทั้งหลาย
จงมลายหายหดหมดระส่ำ
ผุดผ่องส่องสู่จิตผู้นำ
แผลระยำจงหยุดผุดทุรน
จับเข่าคุยกัน
ถอยกันคนละก้าวเถิดเจ้านาย
พวกเราทั้งหลายกำลังชุ่มฝน
ปลูกความหวังลงในนาท้าความจน
ตกเย็นสุดจะทนกับข่าวเจ้านาย
ลองจับเข่าคุยกันบ้างเถิดนะ
บางทีทิฐิอาจจะย่อยสลาย
เอาความโลภโกรธหลงและน้ำลาย
เทระบายในทะเลสักเพลา
เอาประโยชน์ส่วนต่างต่างวางไว้ก่อน
เอาความเดือดร้อนผองชนมาตั้งค่า
เอาความรู้ความมีสติความมีปัญญา
แก้ปัญหา สามัคคี วิถีไทย
ต่อแต่นี้ประเทศไทยจะไม่เศร้า
หากเอาใจเขาใส่ใจเราเข้าใจไหม(ครับ)
เคารพและศรัทธาประชาธิปไตย
นี่คือสันติชัยประนีประนอม
ถอยกันคนละก้าวเถิดจ้าวนาย
พวกเราทั้งหลายกำลังผ่ายผอม
ข้าวก็ยากหมากก็แพงแรงก็ตรอม
รอแต่วันท่านยอม...จับเข้าคุยกัน
โลกจะสวยด้วยบาดแผลที่แก้ไข
โลกวิไลเพราะมนุษย์จุดสร้างสรรค์
โลกน่าอยู่เพราะดื่มด่ำในสัมพันธ์
โลกมีวันเพราะประชาเอื้ออาทร
หน้าที่
ถ้าหน้าที่กับบทบาทคลาดเคลื่อนกัน
หากอันใดสำคัญควรทำก่อน
เอามวลชนเป็นหลักสลักกลอน
แล้วค่อยย้อนส่วนน้อยหรือส่วนตน
มนุษย์นี้มีหลากมากฐานะ
ควรสละพองามตามเหตุผล
ดูถึงความเดือดร้อนใครและตน
ประโยชน์บนคุณธรรมนำโลภา
รู้ลึกซึ้งถึงใจเขาเอามาคิด
ร้อยประดิษฐ์น้ำใจให้หรรษา
ถนอมคำถนอมการณ์สานจริยา
ทั้งพึ่งพาแบ่งปันอันสวยงาม
ความจริงใจใฝ่ดีเป็นที่ตั้ง
คือความหวังสังคมพรหมสยาม
เมตตากรุณาควรค่าตาม
สง่างามนามมนุษย์พุทธคุณ
ไม่ควรหลงในอำนาจวาสนา
นั่นคือหลุมมารยาให้หัวหมุน
เป็นสมมุติหากกลัดกลุ้มไม่คุ้มทุน
ทั้งรอลุ้นความมั่นคงดำรงกาล
แท้ชีวิตคิดแม้นนั้นแสนสั้น
ควรแต่หันสร้างดวงใจให้ไพศาล
ศีล สมาธิ ปัญญา กล้าชำนาญ
จะนำผ่านวุ่นวายทั้งหลายพลัน
ทุกบทบาททุกหน้าที่มีบาดแผล
คอยดูแลให้คุณไม่หุนหัน
ทุกย่างก้าวทุกนาทีคือชีวัน
ต้องรู้ทันรู้คนจึงพ้นภัย
ทางออกสุดท้ายของประชาชน
ข้าวยากหมากแพงแรงงานถูก
ลูกลูกโหยหาคอยอาศัย
พ่อแม่แก่เฒ่าร้าวดวงใจ
ใครใครทดท้อรอหวังพราว
โลกร้อนขึ้นทุกวัน นั่น ! พายุ
เพลิงคุ ป่วนสินธุ์ แผ่นดินหนาว
ข่าวฆ่า ห่า หั่น กันระนาว
เหม็นคาวการเอาเปรียบเหยียบสังคม
ประชาชนตาดำดำทำไงเล่า
เป็นผีเฝ้าถนนทนขื่นขม
หรือทำตามนายทั่นจนวันจม
หรือเกรียมกรมเจ็บจนคนสุดท้าย
พ่ายแพ้แค่นี้หรือผองชน
ทั้งที่ตนหลายหลากมากความหมาย
ลุกขึ้นอย่างผู้กล้าหยัดท้าทาย
อย่าให้ร้ายกว่านี้เลยพี่น้อง
ชั่งน้ำหนักความจริงใจในวันนี้
ไม่เห็นมีใจใครให้เกี่ยวข้อง
หนึ่งสมองกับสองมือเคยลำพอง
ถึงเวลาทดลองกำลงพล
ต่างแหวกว่าย ในวักวน...บนโลกเหวี่ยง
ต่างเป็นเพียงลำลองของเหตุผล
ต่างพบเห็นเป็นไปในยุบล
ต่างไม่พ้นบาดแผลแต่สักราย
บาดแผลเราต่างสรรค์สร้างโลก
หลังฝนโชกสว่างพลันตะวันฉาย
หลังน้ำตาคือรอยยิ้มอันพริ้มพราย
คือความหมายคือความงามคือความจริง ฯ
ปรัชญ์ วลีพร