Party หนังสือ
ฉลาม : เพราะนิยายมีจุดจบ
ข้อดีของการอ่านิยายสักเรื่องคือได้เห็นตอนจบของเรื่องราวเหล่านั้น ไม่จำเป็นเลย...ไม่จำเป็น... ที่จะต้องเดินย่ำไปรอยเดียวกับตัวละครเล่านั้น
ในขณะที่สังคมไทยกำลังเคลื่อนเข้าสู่ความเป็น วัตถุนิยม
ที่เรียกว่า เป็นวัฒนธรรมอุปโภคบริโภค อย่างเต็มรูปแบบ ลัทธิสุขนิยม (hedonism)
ก็เข้ามาแทบจะแยกไม่ออก
ทำให้ความเป็น ปัจเจกบุคคล ชัดเจนขึ้นทุกขณะ ทั้งสามสิ่งที่เอ่ยไปนั้นคน
สังคมไทยกำลัง โดดเดี่ยว
เราเปิดเผยความโดดเดี่ยวนั้นด้วยรูปแบบของ ภาษาและถ้อยคำสำนวนที่สะท้อนโลกทัศน์ของความเป็นปัจเจกนิยมได้แก่ เอาตัวรอด ตัวใครตัวมัน การทำสิ่งใดโดยไม่ตามใคร
ฉลาม เป็นเรื่องสั้นขนาดยาว
ที่โปรยปกท้าทายคนที่ไม่เชื่อมั่นในความรักว่า
เรื่องรัก ที่จะกัดกินไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ตัวอักษรในหนังสือ165 หน้าถ่ายทอดเรื่องราวของ หญิงสาวชาวไทยที่ไม่ปลื้มกับชื่อเสียงเรียงนามของตัวเองนัก
น้ำใจ บุญบดินทร์ อายุเพียงยี่สิบปีเศษ
หญิงสาวสุดเปรี้ยว แต่ในความเปรี้ยวของเธอนั้นเหมือนน้ำส้มสายชูมากกว่ามะนาวเพราะอะไรนะหรือ?
ความเปรี้ยวที่เกิดในตัวเธอมันเกิดจากการแต้มแต่งชีวิตของเธอเอง
ในขณะที่หัวใจและจิตวิญาณเธอยังสับสนกับความหมายของชีวิต
เราจะรู้สึกทันที่ถึงความอ้างว่าง-เปล่าดายในลมหายใจของตัวละคร หลักๆ สองคน
คือหญิงสาวกับชายหนุ่มนาม กระถิก ผู้อาศัยอยู่ในต่างแดน
เหล้า-บุหรี่ -โคเคน-กัญชา นำมาซึ่งคราบน้ำตาของตัวละครทั้งสอง
ฉันอ่านเรื่องนี้แล้วอดคิดตามไปด้วยไมได้ว่า
ชีวิตฉัน ถึงจะข้องแวะสารเสพติดบ้างแต่ก็แค่นิดๆหน่อย พอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
เหตุผลหลักของฉันคือ
...ฉันจะไม่ยอมมีชีวิตอยู่อย่างเป็นทาสสิ่งใดฉันจะไม่ยอมอยู่อย่าง...
คล้ายว่าต้องค่อยพึ่งพาสิ่งหนึ่งสิ่งนั้น
หากไม่มีมัน ฉันจะทุรนทุราย นั่นคือ เหตุผลที่ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นเช่นนั้น
เช่นเดียวกันกับ น้ำใจ และกระถิก
พวกเขาไม่ติดสารเสพติดเหล่านั้น
แต่มีชีวิตอยู่เหมือนขาดแก่นแกนให้ยึดเหนี่ยว
แม้กระทั้งความรักที่เกิดขึ้นก็ยังถูกปฎิเสธให้มันเติบโตอย่างที่มันควรจะเป็น
ในความดิบ-เถื่อนและคำสบถหยาบคายต่าง ๆ
ที่หลุดจากปากตัวเอกของเรื่องราวกับโลกทั้งโลกไม่มีความหมาย
ภาพรูปแบบ ปัจเจกบุคคลอย่างชัดเจน
ตัวกู-อย่างยุ่งเรื่องของกู
ในสังคมที่ต้องเดินเบียดไหล่กับคนแปลกหน้าในท้องถนน
เรามักโหยหาความเป็น ส่วนตัว
แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องการให้มีคน ห่วงใย
แท้จริงแล้ว...เราจะยังดำเนินชีวิตอยู่โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้จริงหรือ?
อ่านเพียงผิวเผิน ฉลามอาจไม่ต่างจากนิยายที่ว่าด้วยเรื่องเด็กสาวใจแตก
กับวังวนของชีวิต แต่สิ่งที่ทำแตกต่างกว่านิยายเกลื่อนแผง
คือการถามหาความหมายของชีวิตในตัวละคร
และโดยเฉพาะเมื่อ น้ำใจ ต้องเปลี่ยนสถานภาพจากคนที่เป็นลูกมาเป็นรับบทแม่
แต่สิ่งที่บรรเทาและเยี่ยวหัวใจที่บาดเจ็บของ "น้ำใจ"คือความรัก ของ ผู้ซึ่งเธอเรียกว่า "แม่"น้ำใจ ที่กำลังจะเป็น "แม่" กับความรู้สึกสับสนว่าการเป็น "แม่" มันคืออะไร
และบทบาท "แม่" ที่ต้องคอยดูแล "ลูก" ที่กำลังจะกลายเป็น "แม่"
ฉันมองเห็นช่องว่างของสังคมที่ถ่างและกว้างสุดกว้าง
ในขณะเดียวกันมันก็ใกล้แต่ใช้มือโอบกอด
และสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่มีในซ่อนในตัวอักษร
ไม่ต่างจากความอ่อนโยนของแม่ของน้ำใจที่มีให้ลูกสาวผ่านท่าทีที่เย็นชา
ราวกับไม่ใส่ใจความทุกข์ร้อนของลูก ทว่าในความเป็นจริงมันตรงข้าม
เธอแทบกลายเป็นคนเสียสติเมื่อลูกสาวได้รับอุบัติเหตุ
ความรู้สึกของถิกที่มีต่อน้ำใจ
ไม่ได้เด่นชัดพอให้ฉันประทับใจได้
แต่ในทางตรงข้ามทำให้ฉันเผลอยิ้มกับความอ่อนหวานของผู้ชายอ่อนโยนที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายคนนี้
ทำให้เห็นว่า ความรัก เป็นได้มากกว่าทิ่คิด
ในท้องน้ำที่สงบร่มเย็น เราคิดอย่างดีแล้วว่า หนทางข้างหน้าคือปะการังที่สวยงาม ไม่มีภยันตรายใด ๆ ปลาน้อยแหวกว่ายเล่นได้ ไม่มีพิษ เราเลือกที่จะดำน้ำลงไป กับคนที่เรารักกับรอยยิ้มที่กำลังแค่เริ่มผลิ
...แต่บางทีเราก็ลืมคิดไปว่า อะไรบางอย่างที่กำลังตามมาหรืออยู่ข้างหลังอาจจะเป็น ในสิ่งที่ไม่มีวันคาดถึง
ข้อดีของการอ่านิยายสักเรื่องคือได้เห็นตอนจบของเรื่องราวเหล่านั้น
ไม่จำเป็นเลย...ไม่จำเป็น
ที่จะต้องเดินย่ำไปรอยเดียวกับตัวละครเล่านั้น
เพราะเราได้มองเห็นจุดเจ็บที่ปวดร้าวตอนจบ
และหนทาง...ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเยือน
ข้อมูลหนังสือ
ชื่อหนังสือ : ฉลาม
ผู้แต่ง: ณัฐสวาสดิ์ หมั้นทรัพย์
สำนักพิมพ์ : ระหว่างบรรทัด
.............................