นานาทัศนะ
โลกใบเล็กของ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์
โลกใบเล็กของ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์
เส้นทางชีวิตของเราสองคนพาดขวางกันครั้งแรกบนหน้าหนังสือนิตยสาร 'ช่อการะเกด' เขาอายุน้อยกว่าผมสิบปี แต่เริ่มงานเขียนเรื่องสั้นก่อนผมนานหลายปี ผมรู้จักเขาครั้งแรกผ่านเรื่องสั้นของเขา "สะพานขาด" ชื่อเรื่องฟังดูแปลก แต่เมื่ออ่านจบแล้ว ผมก็ตะลึงในความลุ่มลึกของเรื่องและภาษาที่จัดจ้าน ยิ่งเมื่ออ่าน "โลกใบเล็กของซัลมาน" ผมก็สั่นหัว นึกไม่ออกว่าเขาสามารถเรียงร้อยอักษรได้อย่างมีพลังเช่นนั้นได้เช่นไร
เราเป็นศิษย์เก่าช่อการะเกดเหมือนกัน เป็นคนใต้เช่นกัน บ้านเกิดของเขาห่างจากบ้านเกิดของผมไม่เกินชั่วโมง แต่ดูเหมือนเขาใช้ชีวิตได้รสชาติเข้มข้นกว่าผมมากนัก ออกจากมหาวิทยาลัยกลางคันเพื่อทำงานที่ใฝ่ฝัน เขียนบทกวีและเรื่องสั้น ที่ประทับใจผมคือ ความมุ่งมั่นที่จะทำงานศิลปะที่ตนเองชอบ และยอมสละทุกอย่างเพื่อไปสู่ความฝันนั้น
'ช่อการะเกด' ล้มหายไปจากสังคมที่วรรณกรรมเป็นเพียงฟันเฟืองชิ้นน้อย เขากับผมยังวนเวียนในโลกวรรณกรรมใบเล็กแต่ไม่เคยเงียบเหงา ในปีหนึ่งหนังสือรวมเรื่องสั้นของเราต่างผ่านเข้าไปในเวทีซีไรต์ 'แผ่นดินอื่น' ได้รับรางวัลในปีนั้นโดยที่ผมยอมรับอย่างเต็มใจ ผมเขียนจดหมายไปแสดงความยินดีต่อเขา ไม่นานก็ได้รับจดหมายตอบจากเขา หลังจากนั้นมิตรภาพของเราก็งอกงามขึ้นเงียบๆ
จราจรชีวิตของเราเกี่ยวก่ายกันหลายครั้งหลายวาระ โดยมากในงานชุมนุมคนวรรณกรรมและงานเสวนาในสถาบันศึกษา เขาหมกตัวในพื้นที่ห่างไกลจากแสงสี ในดินแดนที่สายฝนมักโปรยไพร ดูเผินๆ เขาอาจถูกเหมาเป็นศิลปินเพื่อชีวิต ขบถสังคม นักเขียนไส้แห้ง ฯลฯ แต่เมื่อพบกันหลายครั้ง ผมจึงรู้ว่า เขามีอารมณ์ขันยิ่ง เขาเคยเล่าว่า เมื่อบอกว่าตนเองเป็นนักเขียน ชาวบ้านหลายคนถามว่า รับจ้างเขียนป้ายหรือ บางคนขอให้เขาช่วยเขียนเมนูอาหาร
การได้รับรางวัลทำให้เขาดู 'น่าเลื่อมใส' ขึ้นในหมู่ชาวบ้าน เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดมอบตำแหน่ง "คนดีศรีพัทลุง" ให้เขา เขาบอกผมเมื่อถึงคราวผมรับรางวัลเดียวกันว่า "ประเดี๋ยวเขาก็คงตั้งให้คุณเป็นคนดีศรีสงขลาบ้าง" และหัวเราะชอบใจ
เขาใช้ชีวิตอย่างสมถะ และรู้จักตัวตนของตนเองดี ผมไม่เคยเห็นเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน ครั้งหนึ่งเมื่อเราไปเสวนาวรรณกรรมที่สงขลา เขาบอกผมว่า"ผมดูออกว่าคุณสนุกกับงานที่ทำมาก" ผมก็ดูออกว่าเขาสนุกกับบทบาทของนักทำกิจกรรมเพื่อสังคม
หลังเหตุการณ์สึนามิ เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มที่อาสา จัดการรวมเรื่องสั้นของนักเขียนภาคใต้ เขาเขียนถึงผมว่า นักเขียนภาคใต้ควรทำหน้าที่ต่อแผ่นดินและบ้านเกิด เขาไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเรื่องของภาคนิยมอะไร อย่างไรก็ตามโครงการนี้ก็พับไปด้วยเหตุผลบางประการ
10 ตุลาคม 2548 เขาเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงผม : "ผมเองก็ยังคง 'ดิ้น' และ 'ยุ่ง' อยู่กับงานเขียน ไม่เป็นอันทำอย่างอื่นเช่นเดียวกับคุณ เพียงแต่เป็นการเขียนเพื่อเอาอะไรออกจากตัว ไม่เขียนไม่ได้ รู้สึกปั่นป่วนอยู่ข้างใน คล้ายจะป่วย ดูเหมือนเราจะต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเหมือนกันแน่ๆ คือการค้นพบความสุขในโลกของการเขียน"
ใช่ เขาค้นพบความสุขในโลกใบเล็กของเขาเองแน่นอน
ปลายปีก่อน เขาส่งหนังสือ 'โลกหมุนรอบตัวเอง' มาให้ เขายังคงยืนหยัดการใช้วรรณกรรมเป็นเครื่องมือต่อสู้เพื่อมนุษย์ที่ถูกเอาเปรียบ จากงานเขียน สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปน่าจะเป็นความสุขุมลุ่มลึกขึ้น
บัตรอวยพรปีใหม่จากเขาเดินทางถึงมือผมเมื่อต้นปี โลกหมุนรอบตัวเองอีกหลายรอบ และหลายรอบ
กนกพงศ์จากโลกใบนี้ไปเมื่ออรุณรุ่งแห่งมาฆบูชา...
ชีวิตของเขาออกจะสั้นไปบ้าง แต่มันเป็นชีวิตที่ดี
วินทร์ เลียววาริณ 14 กุมภาพันธ์ 2549