เรื่องสั้น

ใบไม้สีทอง!

by จู พเนจร @April,17 2007 21.40 ( IP : 203...15 ) | Tags : เรื่องสั้น

(๑)

ผมกลับมาเอนตัวนอนอ่อนระโหยโรยแรงทอดถอนใจเฮือกอยู่บนเสื่อนอนที่ห้อง ความคิดฟุ้งๆระเรื่อยทยอยออกมา วันสองวันมานี้ผมรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง นึกคิดว่าทำไมช่วงนี้ถึงรู้สึกท้อแท้เหนื่อยหน่าย ผมเหลือบไปที่เก๊ะพลาสติคเล็กๆที่วางอยู่ข้างโต๊ะญี่ปุ่นตรงมุมห้องแล้วก็นึกถึงใบไม้สีทองสามใบที่ผมได้มาวันก่อนซึ่งผมเก็บเอาไว้ในนั้น

อาจเป็นไปได้ว่าใบไม้นี้นำสิ่งไม่ดีเข้ามาในชีวิตของผม ให้ตายเถอะผมไม่เคยนึกคิดถึงเรื่องความเชื่ออะไรทำนองนี้มาก่อนเลยในชีวิต

ผมอาจจะใส่พระ อาจจะมีผ้ายัญห่อทรายพ่อทวดหน่อ ตะกรุดของพ่อเฒ่าไว้ในกระเป๋าสตางค์อยู่บ้าง ผมก็ไม่เคยนึกว่ามันจะเป็นความขลังอะไรทำนองนั้นของมันทั้งสิ้น นึกบ้างก็ไว้เพื่อระลึกถึงปู่ย่าตาทวด หรืออย่างพระว่าไปแล้วผมมีพระเครื่องดีๆเยอะที่บ้าน พี่ชายผมก็สนใจเล่นพระให้ผมมาใส่อยู่บ่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเอามาใส่ ผมจะเลือกใส่เฉพาะองค์ที่ชอบของผมเอง อาจเป็นองค์เล็กหรือสวยๆเพราะชอบด้วยแง่มุมอะไรสักอย่าง มากกว่ารุ่นที่เขาเล่นกัน ผมมองพระใส่พระแขวนเพราะมันสวยงามเป็นพุทธศิลป์มากกว่า

ผมไม่เคยมีความเชื่อเรื่องที่ว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ถึงจะเป็นมงคลอะไรทำนองนั้นกับอะไรมากนัก ไม่รู้สึกเชื่อเฉยๆ และผมก็ไม่ขัดใครแย้งใครว่าใครจะถือจะเชื่อยังไงด้วย เพียงผมไม่ชอบไม่เชื่อขี้เกียจก็เท่านั้นเอง

ก็เพิ่งจะคราวนี้แหละผมเกิดนึกอะไรทำนองนี้ขึ้นมา เป็นคำถามตั้งแง่ให้แก่ชีวิตตนเองขึ้นมา นึกไปแล้วก็ตลกดี อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นอะไรที่บังเอิญได้มาแปลกๆพิกลไม่ได้นึกคิดมาก่อนก็ได้

หรือว่ามันจะเป็นเรื่องจริง!


(๒)

ผมได้ใบไม้สีทองสามใบนี้มาจากตลาดเปิดท้ายแห่งหนึ่งซึ่งอยู่เยื้องออกมาจากตลาดเปิดท้ายใหญ่ของเมือง ผมชอบมาเดินเล่นดูของขายที่นี่ เพราะจะมีของประเภทมือสองที่ใช้แล้ว ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า จานชาม แก้ว แจกัน หนังสือ ม้วนเทป โดยเฉพาะข้าวของเครื่องใช้จิปาถะที่แปลกๆบางทีหาไม่ได้ทั่วไป และสินค้าก็จะเปลี่ยนมาเรื่อยๆ เพราะคนขายไม่ใช่แม่ค้ามืออาชีพแต่จะเอาของที่ไม่ใช้แล้วทยอยมาขายเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมจะชอบมาเดินดูหนังสือที่เขาไม่อ่านไม่เอาแล้ว อาจจะเป็นเล่มละห้าบาทสิบบาท

ใบไม้สีทองสามใบนี้มันซ้อนกันอยู่ในนิตยสารเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นแผงแบกะดินเล็กๆอยู่ในมุมมืดๆที่มีหนังสือบ้างข้าวของกะจุ๊กกะจิ๊กบ้าง คนขายเป็นสามีภรรยากัน น่าจะมาขายใหม่ เห็นผมหยุดยืนดูก็ออกปากคะยั้นคะยอให้ซื้อนั่นซื้อนี่ตามประสา ผมจะแวะกลับแล้วตอนนั้น แต่ในที่สุดผมก็ย่อเข่าลงไปนั่งหยิบนิตยสารเล่มนั้นขึ้นมา มันเป็นฉบับฉลองครบรอบสิบปี

“เล่มละสิบบาท” พี่ผู้หญิงบอกราคา ผมแวบเห็นอะไรบางอย่างสอดอยู่ในหน้าหนังสือ

“เอ้อมันมีใบไม้อยู่ในนั้นด้วย” แกพูดต่อเมื่อเห็นผมเปิดหนังสือดู

ผมหยิบใบไม้นั้นออกมาด้วยความไม่แน่ใจสองอย่าง คืออย่างแรกผมไม่คิดว่าจะเอาติดมาด้วย คือไม่รู้จะเอามาทำอะไร อีกอย่างผมคิดว่าจะบอกและจะถามเค้าว่าใบไม้มันติดมาในหนังสือด้วยนะ ก็ถือๆค้างๆไว้พร้อมกับหนังสือ

พี่ผู้หญิงหันไปถามแฟนซึ่งนั่งเอนๆตัวพิงขอบฟุตบาทอยู่ เค้าก็บอกว่า

“อ๋อมันเป็นใบไม้สีทองน่ะ ได้มาจากไหนยังไงนะ” เค้าคุยกัน

“ตกลงยังไงครับ ขายด้วยไหม”

“เท่าไหร่ดีล่ะ อ่ะสามใบ ยี่สิบบาทก็พอ”

“ใบไม้นี้เค้าเอาใส่กรอบกันนะ ไม่ค่อยมีแล้ว ที่บ้านพี่ก็มี” พี่ผู้ชายพยายามจะบอกเล่าถึงที่มาของมัน

“ใบไม้นี้ได้มาจากตำหนักทักษิณฯที่นราฯ เอามาจากที่นั่น ที่อื่นก็มีนะ แต่แปลกเฉพาะที่นี่ที่เดียวใบมันจะเป็นสีทอง สีนี้สีน้ำตาลกำมะหยี่นี่แหละ เค้าเรียกใบไม้สีทองต้นไม้สีทอง”

“เป็นเพราะภูมิประเทศภูมิอากาศมันด้วยใช่ไหม”

ผมนึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินเรื่องใบไม้นี้มาที่ไหนสักหนเมื่อนานมาแล้ว แต่ก็ไม่นึกว่าจะมีอะไรน่าสนใจไปกว่าเวลาเห็นผีเสื้อหรือใบไม้สีที่คล้ายๆนี้ที่เหมือนใบโพธิ์บ้างอะไรบ้างที่ใส่กรอบวางขายทั่วไปนั่นแหละ ผมไม่แน่ใจนักว่าอยากได้เอาไปทำไม บางทีเวลาจะซื้ออะไรก็ไม่ค่อยมีเหตุผลแบบนี้แหละบ่อยคนเรา

“งั้นเอาหนังสือนี่ด้วยยี่สิบบาทแล้วกัน” ผมบอก

ในที่สุดก็ได้มา อาจจะคิดว่าคนขายหลอกขายหรืออะไรทำนองนั้น แต่แหม ถ้าจะหลอกก็หลอกไปเหอะ ใบไม้สีทองสามใบขายแค่สิบบาท ใบละสามบาทห้าสิบ ถ้าจะหลอกเขาก็คงไม่ขายแค่สิบหรือยี่สิบหรอก ผมคิดว่ามันเป็นความบังเอิญของการซื้อขายกันมากกว่า


(๓)

มันเป็นใบไม้สีน้ำตาลดำด้านบนเป็นกำมะหยี่ ลักษณะใบของมันเหมือนใบบัวเล็กๆขนาดฝ่ามือกาง เมื่อผมเปิดออกจากหนังสือมาดูก็นึกไม่ออกว่าจะเก็บไว้ที่ไหนดีสักที่ ขืนสอดไว้ในนิตยสารเดี๋ยวมันก็หายไปพร้อมกับนิตยสารที่กองเต็มไปหมด เดี๋ยวบริจาคเดี๋ยวคนนั้นคนนี้หยิบยืมไป จะเอาวางไว้บนโต๊ะหรือตรงไหนสักแห่งก็รู้สึกว่าใบไม้นี้มันดูแปลกที่ ในห้องซึ่งไฟสว่างยิ่งรู้สึกแปลกๆถึงสีและลักษณะของใบไม้สามใบซึ่งซ้อนกันอยู่เหมือนมันมีความมืดลึกลับ ดูทีๆคล้ายๆปีกของแมลงยักษ์อะไรสักอย่าง ดูมันขรึมมันขลังเหมือนมีเวทย์มนต์อะไรสักอย่างอย่างนั้นแหละ ยิ่งจ้องมองดูมันนานๆตาเหมือนจะฝาดๆ

ในที่สุดผมก็มองไปที่เก๊ะ

ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรแน่ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกถึงความแปลกและชวนพิศวงของมันแวบขึ้นมา อย่างใบไม้ลึกลับสามใบนี้เลย เพราะมันเป็นอะไรที่แปลกแตกต่างออกไปจากสิ่งอื่นที่ผมเคยมีเคยรู้สึก

ใบไม้นี้ มันอาจจะดีอาจจะแปลกหายาก แต่ถ้าใครบางคนได้ครอบครองก็จะนำสิ่งที่ไม่ดีมาสู่คนนั้นโดยปริยายก็ได้ เพียงแต่เรื่องนี้ไม่มีใครบอกเล่า หรือเป็นเรื่องที่พูดถึงกันทั่วไป หากแต่เป็นโชคเคราะห์ของคนๆนั้น ซึ่งก็ช่วยไม่ได้

แต่ใครจะไปรู้บางทีมันอาจนำเรื่องดีๆมาสู่ชีวิตเป็นมงคลกับชีวิตก็ได้


(๔)

ผมเงื้อมมือไปค่อยๆดึงเก๊ะออกมาทีละชั้นๆ ไม่แน่ใจแล้วว่ามันอยู่ชั้นไหน ตกใจเมื่อเห็นมันยังอยู่ในเก๊ะ ใจผมเริ่มสับสนและผมตั้งแง่กับมันว่าเอาสิเจ้าใบไม้สีทอง(ประหลาด) ถ้าชีวิตช่วงนี้มันมีเรื่องแย่ๆรู้สึกแย่ๆเหนื่อยๆหน่ายๆเซ็งๆอยู่อย่างนี้ละก็ จะเอาไปทิ้งไปเผาเสียให้รู้แล้วรู้รอด พิสูจน์กันไปเลย ถ้ามันเป็นใบไม้มงคลหรือมันมงคลสำหรับเราก็จะเก็บไว้

...อาทิตย์นึงนี่มันน้อยไปไหม บางทีชีวิตมันก็ขึ้นๆลงๆของมันเรื่อยนี่นาไอ้อาทิตย์นึงน่ะ แล้วถ้าเกิดมันเป็นใบไม้มงคลล่ะ ผมครุ่นคิดต่อ เพียงแต่เราอดทนสักหน่อยให้ได้มันมาไว้กับตัวเจ็ดวันไปแล้ว ถึงมันจะไม่ดีบ้าง แต่ถ้าหากมันเป็นมงคลเป็นของขวัญซึ่งประทานมาให้กับเรา เอาหละๆ ถ้ามันดีก็ดีไป แต่ถ้าอะไรมันก็ไม่ดีขึ้นล่ะ จะรู้ได้ไงก็ชีวิตมันก็ลุ่มๆดอนๆของมันไม่ถึงกับแย่หรือประสบโชคเคราะห์อะไรร้ายแรงจะถือว่าดีไม่ดีล่ะ ที่เขาว่าฟาดเคราะห์ไปนั่นแหละ ถ้าเกิดเอามันไปทิ้งไปทำลายสิอาจประสบโชคเคราะห์ร้ายๆขึ้นมากว่านั้นก็ได้ หรือชีวิตจะต้องเคราะห์กรรมไปตลอดไม่อาจเลี่ยงหลีกนับแต่นี้ไป ใช่ถ้าเอามันไปทำลายหรือเผาทิ้งก็เท่ากับทำลายโชคลาภศิริมงคลของตนทิ้งไปกะมือตนเองนับแต่นั้นตลอดไปในชีวิตก็จะมีแต่เรื่องร้ายๆที่ไม่อาจแก้ไขได้อีกเลย...ผมคิดหนัก

เอาไปทิ้งกะเรี่ยกะราดก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะถ้าเรารู้ว่าถ้าบังเอิญว่าสิ่งนั้นเป็นของไม่ดี หรือของที่ใครเอาไปแล้วไม่ดีกับตัวเขา เท่ากับเราเจตนาที่จะให้ใครก็ไม่รู้รับเคราะห์โดยที่เรารู้ๆอยู่ หรือไม่อาจแน่ใจเช่นนั้น ถึงแม้เราจะได้พ้นเคราะห์นั้นไปก็เหอะ ยิ่งเอาไปให้คนอื่นหรือคนที่รู้จักก็ยิ่งไม่ดีใหญ่ เพราะถึงเรารู้ว่าบางทีมันอาจเป็นมงคลก็จริงอยู่ ซึ่งก็ดี แต่บางทีมันอาจเป็นอัปมงคลกับชีวิตเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งก็ได้

ในที่สุดผมก็ปล่อยไว้ให้มันอยู่ในเก๊ะตามเดิม และคิดว่าถ้ามันไม่ดีจริงเป็นของอัปมงคลของที่เป็นความลึกลับอะไรสักอย่างที่สร้างความไม่เจริญรุ่งเรืองให้กับคนที่มีมันอยู่ ผมก็คิดว่าถ้าผมทำดีเสียอย่างผมเชื่อว่าสิ่งไม่ดีแบบนั้นถ้ามันจะชนะก็ให้มันชนะไปเถิด เพราะจนปัญญาที่จะไปหยั่งรู้มันได้เลย ถ้าเกิดทิ้งมันไปเสีย เพราะจริงๆผมก็รู้อยู่ว่าถ้าทำอะไรดีๆมันก็ดี ถ้าทำอะไรที่มันไม่ดีมันก็ไม่ดี ซึ่งว่าไปแล้วผมก็ตอบไม่ได้หรอกว่าอะไรที่ดีอะไรที่ไม่ดีที่แท้ ของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร ของผมเองจะเป็นอย่างไร มันรวมหมดตั้งแต่เรื่องหัวจรดเท้า ขี้เกียจขยัน มุมั่นหรือปล่อยวาง เรื่องต่อหน้าลับหลัง เรื่องนานาจิตตัง ซึ่งไม่เกี่ยวกะใบไม้นี้สักกะผีกริ้นเลย

ถ้าชีวิตมันมีอะไรดีขึ้นอะไรต่อไปของมัน ผมก็เชื่อว่ามันอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับใบไม้สีทองลึกลับสามใบในเก๊ะนั่นก็เป็นได้ ซึ่งถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะไม่ได้ว่าอะไร ถ้าชีวิตมันดี มีความสุขจริง ชีวิตมันมีความบริสุทธิ์ใจมันก็อยู่เหนือทุกๆสิ่งอยู่แล้วมิใช่หรือ

นอกเสียจากว่า ใช่ นอกเสียจากว่า..

นั่นแหละก็เลยมีบ้าง..ที่ทุกๆครั้งที่ผมไปนั่งใกล้ๆเก๊ะ รื้อค้นเอกสารมาถึงเก๊ะนึง แล้วใจผมเผลอระทึกๆว่ามันยังคงอยู่ไหม ผมค่อยๆดึงลิ้นชักเก๊ะออกมาช้าๆ ค่อยๆดึงออกมาช้าๆ...

แสดงความคิดเห็น

« 0766
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซท์
"ก๊วนปาร์ตี้"
เว็บไซท์นี้เปิดมาเพื่อ เป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับบันทึกเรื่องราว ทางด้านวรรณกรรม ทุกรูปแบบ ท่านสามารถส่งบทความ - เรื่องสั้น - บทกวี เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันอ่าน โดยคลิกส่งได้จากด้านล่างนี้
คลิกเพื่อ >> ส่งบทความ | ส่งเรื่องสั้น | ส่งบทกวี | ปกิณกะ