เรื่องสั้น

บนกลอนเก่า ๆ

by สิงห์ลา @September,04 2007 11.32 ( IP : 202...98 ) | Tags : เรื่องสั้น

บนกลอนเก่า ๆ

เวลานำพาให้ผมมาพบเธออีกครั้ง

    ไม่นึกเลยว่าบทกลอนในวันนั้นจะทำให้เธอยังจำผมได้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องราวระหว่างเรานั้นมันผ่านมาตั้งเจ็ดปีแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

    ภาพรอยยิ้มของเด็กผู้หญิงถักผมเปียคนนั้นโลดแล่นวิ่งผ่านเข้ามาอีกครั้ง หลังจากที่ผมได้รับอีเมลฉบับหนึ่ง กับข้อความสั้น ๆ ที่เธอเขียนมา แม้จะเป็นตัวหนังสือที่พิมพ์จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ข้อความเหล่านั้นมันทำให้นึกย้อนลงไปในความทรงจำ ลายมือชื่อบนปกสมุดของเธอ ผมยังจำลายมือของเธอได้เป็นอย่างดี เหมือนกับเพิ่งได้เห็นมันเมื่อวานนี้ คลิกความรู้สึกแรกที่ได้รับอีเมลผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่า จะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นกับผม ทั้ง ๆ ที่เธอควรจะลืมผมไปแล้วแต่กลับยังหลงเหลือความทรงจำอยู่

    เช่นเดียวกันกับผม ทั้ง ๆ ที่ควรจะลืมเธอไปตั้งนานแล้ว แต่ผมยังคงเก็บกับเธอเอาไว้ในความทรงจำเป็นอย่างดี





ไออุ่นที่คุกรุ่นขึ้นมาในหัวใจ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่า เรื่องทั้งหมดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้

    อาจจะเป็นรักครั้งแรก รักในวัยเด็กที่เกิดขึ้นกับผมโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่แน่ใจว่ามนุษย์เราสมควรจะมีความรักครั้งแรกเกิดขึ้นได้เมื่อไร เวลาใด ณ สถานที่แห่งหนใด แต่สำหรับผมมันเกิดขึ้นในตอนเช้าวันนั้น กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งย้ายโรงเรียนเข้ามาใหม่

    ผมแอบมองเธอด้วยความสนใจอย่างที่ไม่เคยมองใครมาก่อน หัวใจสูญเสียจังหวะการเต้น ร้อนรน วูบวาบ ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของเธอ แม้รอยยิ้มนั้นจะไม่ได้ยิ้มมาให้ผมก็ตาม

    กระวนกระวายทุกครั้งที่อยู่ภายในรัศมีใกล้เธอ อยากรู้จักและพูดคุยกับเธอใจจะขาด แต่ด้วยความเขินอายจึงทำให้ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากออกไปดังที่ใจคิดไว้ เก็บทุกคำพูดที่ล่วงหล่นออกมาจากจิตใจไว้จนมิดชิด

    จนวันหนึ่งความลับมันไม่ได้กลายเป็นความลับอีกต่อไป

    อาจจะเป็นเพราะท่าทางรั่ว ๆ ของผมที่ผิดแปลกออกไป ในจังหวะที่เธอเดินผ่านเข้ามา สายตา สีหน้า ท่าทาง แววตา มันถูกแสดงออกมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว เพื่อน ๆ ของผมจึงสามารถรับรู้มันได้โดยที่ผมไม่ต้องพูดจาออกไปแม้แต่คำเดียว

    หลังจากคำพูดลอย ๆ พูดจาหยั่งเชิงเกี่ยวกับความรู้สึกผมที่มีต่อเธอ ถูกพัฒนากลายเป็นคำแซวล้อเลียน จนกลายเป็น

เรื่องเล่าที่สนุกสนานกันในห้องเรียน ว่าผมชอบเธอคนนั้น ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยออกปากพูดเองแม้แต่คำเดียว

    แม้จะไม่ชอบเสียงนกเสียงกาเหล่านั้นสักเท่าไร แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไปซะทีเดียว เพราะเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นในใจผมอย่างนั้นจริง ๆ





แม้ทุกสิ่งจะจุดประกายเริ่มต้น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา มันกลับเหมือนราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นในโลกจริง

    ทุก ๆ วันที่เจอหน้าเธอคือบททดสอบความอดทนของผม ว่าจะขังความรู้สึกและคำพูดเหล่านั้นไว้ในใจ ไม่ให้หลุดออกมาเป็นคำพูดได้ยาวนานสักแค่ไหน

    แม้จะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันเจอหน้ากันแทบทุกวัน แต่สำหรับเรา(ผมและเธอ) การสนทนาพูดคุยแทบจะไม่ได้เกิดขึ้นจริงเลยแม้แต่คำเดียว ในบางครั้งการทำรายงานกลุ่ม จะถูกจับให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะล่วงล้ำหรือทำอะไรเกินเลยไปกว่าสัมพันธภาพที่ยังคงรักษาระดับไว้เพียงแค่นี้ ในระยะห่างที่พอเหมาะพอดี ในบางทีที่ความคิดและความรู้สึกข้างในจิตใจ จะลุกล้ำเกินเลยไปกว่านั้นแล้วมากมาย

    อาจจะเป็นเพราะว่าเธอรู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเธอ การกระทำท่าทางและท่าทีต่าง ๆ จึงมีการเว้นระยะเอาไว้พอสมควร บางครั้งผมพยายามที่จะกล้าพูดคุยออกไป แต่เธอกลับนิ่งเฉย มันทำให้ผมประหม่า คิดมากวิตกและเป็นกังวลกลัวว่าเธออาจจะไม่ชอบ หรือว่าเกลียดผมก็เป็นได้

    เวลาในแต่ละวันดำเนินไปอย่างเชื่องช้า การเรียนหนังสือกลายเป็นสิ่งรองที่ผมคิดถัดจากเธอ ในชั้นเรียน ผมนั่งแถวหลังสุด เธอนั่งแถวหน้าสุด ผมมักจะนั่งมองภาพเธอจากข้างหลัง ผมเปียที่ถักร้อยเป็นระเบียบของเธอ ทำให้ทุกสิ่งที่มีตัวตนอยู่ในห้องเรียนกลายเป็นความว่างเปล่าไร้ความหมาย บางครั้งสิ่งที่ไร้ความหมายนั้นรวมไปจนถึงผมด้วยซ้ำ





ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้วซ้ำ ๆ กัน

    วันหนึ่งผมตื่นไปโรงเรียนแต่เช้ากว่าปกติ ห้องเรียนยังโล่งและปลอดภัยเพราะยังไม่มีใครมา เหตุผลที่ผมมาเช้าก็เพราะว่าเพื่อจะดูโต๊ะที่เธอ สังเกตว่าบนโต๊ะหรือในลิ้นชักมีอะไรถูกลืมหรือทิ้งไว้หรือเปล่า นึกเข้าข้างตัวเองว่าบางทีเธออาจจะแอบเขียนข้อความถึงผมบ้างก็ได้ เหมือนกับที่ผมแอบเขียนชื่อเธอไว้ตรงมุม ๆ หนึ่งของโต๊ะ

    แล้วผมก็มีทุกเช้าที่ซ้ำ ๆ กันโดยไม่อาจห้ามใจได้

    ไม่มีสิ่งใด ๆ เกิดขึ้นจริงอย่างที่ผมตั้งความหวังไว้เลยสักนิดเดียว หรือบางทีผมอาจจะหวังมากเกินไปก็เป็นได้

    วันหนึ่งผมรวบรวมความกล้า เขียนกลอนใส่กระดาษสอดไว้ใต้โต๊ะของเธอ กลอนบทนี้แม้ผมจะไม่ได้แต่งขึ้นเอง แต่ผมก็เลือกเฟ้นมันเป็นอย่างดีจากนิตยสารวัยรุ่นสมัยนั้น เนื้อความของมันเป็นสำนวนสัมผัสที่ไม่ได้เกี่ยวกับความรักเลยสักนิด เป็นเรื่องเกี่ยวกับความฝันและการให้กำลังใจ…

    วันนั้น ในขณะนั้น ผมไม่รู้ว่าเธอต้องการความฝันหรือกำลังใจเหล่านั้นหรือเปล่า แต่ผมก็เต็มใจที่จะมอบให้ไปแล้ว วันทั้งวันแทบไม่เป็นอันทำอะไร หลังจากที่ผมให้ของขวัญชิ้นแรกเธอไป เฝ้ารอผลตอบรับจนกระทั่งเย็นแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นและถูกส่งคืนกลับมา กลับกันเหมือนข้อความเหล่านั้นถูกกลืนหายไปในความรู้สึกเฉยเมยของเธอที่มีต่อผม ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าช่องสัมพันธภาพที่มีอยู่ห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ ทุกที ๆ

    หลังจากวันนั้น ผมไม่กล้าและกลัวที่จะรู้สึกอะไรเกินเลยกับเธอต่อไป ปล่อยให้เวลาเลื่อนไหลผ่านไป จนกระทั่งถึงทางแยก ที่ทำผมและเธอต้องเดินจากกันไปคนทิศคนละทาง





จนกระทั่งวันนี้ ทางแยกในวันนั้นได้มาบรรจบรวมกันอีกครั้ง

    จากข้อความในอีเมลฉบับแรก ทำให้เกิดข้อความฉบับที่สองและสามตามต่อกันมา เธอรู้อีเมลผมจากเพื่อนเก่าคนหนึ่งโดยบังเอิญ ผมได้รู้ว่าทันทีที่เรียนจบชั้นมัธยมต้น เธอก็ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ โดยไม่ได้กลับประเทศไทยเลย

    ตอนนี้เธอเรียนจบแล้ว และสัปดาห์หน้าเธอจะกลับมาประเทศไทย เธอบอกว่าคิดถึงเพื่อนเก่า ๆ ที่เมืองไทย รวมถึงผม

    แม้จะดีใจและยินดีกับข้อความเหล่านั้น แต่ในอีกความรู้สึกหนึ่งก็ยังไม่ชัดเจนกับตัวเองว่า วันนี้รู้สึกอย่างไรกับเธอ แล้ววันนี้เธอมีความรู้สึกอย่างไรกับผม

    เหมือนเดิมหรือว่าเปลี่ยนไป





เจ็ดปีเป็นเวลาที่ยาวนานสำหรับการเรียนรู้ เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ความคิดของคนเราเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกวัน บางครั้งหายใจเพียงครั้งเดียวก็ทำให้คำตอบที่เคยมีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

    เรานัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอนั่งอยู่ตรงหน้าผม ผมรู้สึกประหม่าที่จะมองเธอเต็ม ๆ ตา การพูดคุยเป็นไปอย่างตะกุกตะกัก ผมพูดอะไรไม่ค่อยออก เหมือนกับเด็กที่เพิ่งหัดพูดกอไก่ ขอไข่ ใหม่ ๆ ซึ่งไม่ต่างจากเธอ อาจจะเป็นเพราะห่างเมืองไทยไปนาน ทำให้เธอพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไร

    “เป็นยังไงบ้างตอนนี้ สบายดีหรือเปล่า” เธอถาม
    “สบายดี”
    “เราคิดถึงเมืองไทยมากเลย ไปอยู่เมืองนอกตั้งนาน ไม่คิดว่ากลับมาแล้วเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้” เธอมองออกไปนอกร้าน รถราวิ่งขวักไขว่ ผู้คนเดินผ่านไปมาริมถนน
    “อยู่เมืองนอกเป็นยังไงบ้าง”
    “ก็ดี หนาวดี” หันกลับ “แต่เมืองไทยยังร้อนเหมือนเดิม”
    “อืม ก็ร้อนอย่างนี้แหละ”
    “ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า เธอจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้” เธอมองมายังผม เอาหลอดคนน้ำแข็งในแก้ว หัวเราะในลำคอ
    “ยังไง”
    “ไม่รู้สิ อาจจะไม่ได้เจอตั้งนานด้วยละมัง”
    “อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้”
    “ยังจำกลอนที่เขียนให้เราวันนั้นได้หรือเปล่า” จู่ ๆ เธอก็โพลงถามขึ้นมา
    “เอ่อ” ผมอึกอัก หน้าแดงไปจนถึงใบหู

    เธอหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ความซีดโทรมของกระดาษบอกถึงอายุของมันได้เป็นอย่างดี

    เธอยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ผม
    “อะไร” ผมอึกอัก
    “ก็กลอนของเธอไง ที่เขียนให้เรา”
    “เอ่อ ยังเก็บไว้อยู่อีกเหรอ”
    “แล้วจะให้เอาไปทิ้งไว้ที่ไหนล่ะ” เธอยิ้ม

    ผมรับกระดาษแผ่นนั้นมาจากเธอ คลี่ออกดู แม้ตัวอักษรจะลางเลือน แต่ความรู้สึกอุ่น ๆ ที่อัดแน่นอยู่ในแต่ละตัวอักษรในหน้ากระดาษ ไม่ได้คลายลงไปเลย

    “จำได้หรือเปล่า” เธอถาม
    “ดะ ๆ ... ได้สิ”

    ผมอ่านบทกลอนในกระดาษนั้นในใจจนจบ รู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ทำให้ผมร้อนวูบวาบไปทั้งตัว

    “ขอบใจนะ” เธอเสียงแหลมเล็กออกมา

    ผมเงยหน้ามองเธอเต็มตาเป็นครั้งแรก

    เด็กหญิงผมเปียกำลังส่งรอยยิ้มที่คุ้นเคยให้กับผมตรงหน้า

    ผมรู้สึกถึงสัมพันธภาพที่คืนกลับมาอีกครั้งระหว่างผมกับเธอ ในช่วงขณะที่เวลานำพาเราทั้งสองคนให้กลับมาพบกันอีกครั้ง กับบางสิ่งที่เปลี่ยนไป และบางสิ่งที่ยังคงเดิมอยู่เสมอมา


    ขอบคุณที่ยังรักษาบทกลอนเก่า ๆ ของเราเอาไว้ดังเดิม

แสดงความคิดเห็น

« 1974
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซท์
"ก๊วนปาร์ตี้"
เว็บไซท์นี้เปิดมาเพื่อ เป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับบันทึกเรื่องราว ทางด้านวรรณกรรม ทุกรูปแบบ ท่านสามารถส่งบทความ - เรื่องสั้น - บทกวี เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันอ่าน โดยคลิกส่งได้จากด้านล่างนี้
คลิกเพื่อ >> ส่งบทความ | ส่งเรื่องสั้น | ส่งบทกวี | ปกิณกะ