เรื่องสั้น
Message
เรื่องสั้น จู พเนจร MESSSAGE
"ผมเขียนเรื่องเสร็จแล้วครับพี่เจี๊ยบ" ตี๊ดตี๊ด ตี๊ดตี๊ด เสียงดังขึ้น ข้อความที่ผมส่งไปปรากฏ
"กลางคืนอย่าลืมนอนห่มผ้านะ พี่เจี๊ยบ"
"กลางคืนอย่าลืมนอนห่มผ้านะ พี่เจี๊ยบ" ตี๊ดตี๊ด ตี๊ดตี๊ด เสียงดังขึ้น ข้อความที่พี่เจี๊ยบส่งมาปรากฏ
"ฮัลโหลครับ อ่อ พี่เจี๊ยบเหรอ ผมอยู่ที่งานครับ อะไรนะครับ ไม่ค่อยได้ยินครับ เดี๋ยวนะครับ แป๊บนึง เดินออกมาข้างนอกหน่อย ครับๆ ว่าไงนะครับ"
"จูได้รับข้อความของพี่ไหม"
"อ่อครับ ได้รับครับ"
"เอ่อ พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม"
"อะไรนะครับ อ่อครับ ได้ครับ ถามอะไรนะครับ"
"จูได้รับข้อความแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง"
"อื่อ"
"คือพี่อยากรู้น่ะ"
"เอ่อ นั่นนะสิ ผมรู้สึกแปลกๆนะ"
"เออนี่ เป็นครั้งแรกเลยนะที่พี่ส่งข้อความน่ะ"
"อ่อ...เหรอครับ"
"แล้วพี่ก็ได้รับข้อความจากจูเป็นคนแรกเลยที่ส่งข้อความมาให้พี่"
"อ่อ...เหรอครับ อื่อ แล้ว"
"พี่อยากรู้น่ะว่าได้รับข้อความแล้วเป็นยังไง"
"เออ นั่นนะสิ ถามผมเหรอ ผมรู้สึกว่าสงสัยน่ะครับ คือตามข้อความนะครับ เอ๊ะพี่เจี๊ยบคิดยังไงนะถึงได้ส่งข้อความมา รู้สึกแปลกๆว่าพี่เจี๊ยบคิดอะไรยังไง นึกอะไรขึ้นมา"
"อื่อ"
"พี่เจี๊ยบนึกยังไง ผมคิดว่า เอ่อ พี่เจี๊ยบคงเป็นห่วงเราจริงๆอย่างนั้นนะครับ แต่โดยปกติแล้วพี่เจี๊ยบคงจะไม่ใช่คนที่จะส่งข้อความอะไรมาแบบนั้น ก็เลยนึกสงสัยเหมือนกันนะครับว่าพี่เจี๊ยบนึกยังไง"
"จูเชื่อไหมว่านี่เป็นครั้งแรกที่พี่ส่งข้อความนะ และพี่ก็ได้รับข้อความครั้งแรกจากจูเหมือนกัน"
"อือ เหรอครับ ครับๆ"
"จูจำได้ไหม ตอนที่จูเอาผ้าห่มมาห่มให้พี่ตอนที่พี่นอนวันนั้นน่ะ ตอนที่พวกเราไปทำงานกันที่บ้าน" ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นได้ทันที ถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนเรา แต่ละคน ผมจำได้ว่าครูเจี๊ยบโทรมาบอกผมหลังจากวันนั้นวันสองวันที่มีโอกาสได้โทรคุยกัน
"มันทำให้พี่นึกถึงพ่อ สมัยที่พี่เด็กๆ"
"ครับ อ่อ" อาจจะเป็นด้วยความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ ผันผ่านไปหลายวัน หลังจากผมเขียนเรื่องที่ครูเจี๊ยบเล่าให้ฟังเสร็จในวันหนึ่งผมก็ส่งข้อความไปบอกว่าเขียนเรื่องเสร็จแล้วนะ หลังจากวันนั้นสองสามวันครูเจี๊ยบก็โทรมาถามว่าผมส่งข้อความไปเหรอ เขียนเรื่องเสร็จแล้วเหรอ
ครูเจี๊ยบไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยนัก ครูเจี๊ยบมักบอกใครๆว่าตนเองเป็นคนไม่ใช้โทรศัพท์มือถือหากไม่จำเป็นจริงๆ มีก็แต่เบอร์ของแฟนกับเบอร์ที่บ้าน และเป็นเช่นนั้นนานมา ไปไหนมาไหนก็นั่งรถสองแถว เดิน มาหลังๆช่วงที่มีงานติดพันครูเจี๊ยบก็ถือมือถือไว้กับตัวบ้าง แต่น้อยครั้งนักที่ครูเจี๊ยบจะติดต่อทางมือถือได้
"ถือว่าฟลุ๊คมากเลยที่จูโทรมาแล้วพี่เปิดมือถือวันนี้ ปกติพี่จะไม่เปิดเลยนะ เนี่ยเปิดพอดีเลย" ครูเจี๊ยบว่าวันหนึ่งที่ผมโทรไปแล้วโทรติด ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ครูเจี๊ยบจะต้องมีมือถือแล้วล่ะ ในเวลาที่พอศอนี้ใครๆเขาก็ต่างมีมือถือใช้กันหมดทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ลูกเล็กเด็กอนุบาล
"พี่จะใช้เวลาที่จำเป็นจริงๆ ต้องจำเป็นจริงๆเท่านั้น" ครูเจี๊ยบเคยบอกกับใครต่อใครไว้และก็ดูเหมือนจะอย่างนั้นจริงๆ
"จูจำได้ไหม วันที่จูเอาผ้ามาห่มให้พี่น่ะ ทำให้พี่นึกถึงพ่อที่เคยเอาผ้าห่มมาห่มให้พี่" ผมนึกถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนที่ส่งข้อความ และส่งข้อความครั้งแรกอย่างพี่เจี๊ยบ คนที่ไม่เคยใช้มือถือโทรหาใครหากไม่ธุระปะปังจำเป็นเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ
"จูได้รับข้อความจากพี่ไหม เอ่อ" ผมก็เลยนึกถึงคนที่ทำอะไรครั้งแรกๆ และไม่ประสีประสา อย่างในเรื่องไฮท่กไฮเทคทั้งหลาย จะไม่ค่อยแน่ใจอะไรพวกนี้จริงๆ แล้วครูเจี๊ยบก็ถามว่ารู้สึกยังไง อาจจะตอบคำถามความสงสัยที่ตนเองได้รู้สึกครั้งที่ได้รับข้อความครั้งแรกจากผมด้วย คืออยากรู้
"พี่สงสัย" จะว่าแกช่างสงสัยก็ไม่เชิง ไม่ประสีประสาก็ไม่ใช่ เรียบง่ายธรรมดา จริงจังจริงใจ แต่ซื่อใสบริสุทธิ์และอารมณ์ดี แต่ครูเจี๊ยบอยากรู้มากว่านั้น
"คือพี่สงสัย สงสัยว่า..." นั่นคือเรื่องราวของครูเจี๊ยบล่ะ แกมีอะไรของแก
"เอ่อ จริงๆ พี่สงสัยว่าแล้วทำไมเขาต้องส่งข้อความล่ะ แล้วทำไมถึงไม่โทร ทำไมต้องส่งแมสเสท ทำไมไม่โทร เอ่อ"
"อ่อ ก็..." ผมว่า
"แปลกนะคนเราทำไมถึงต้องส่งข้อความกัน ก็โทรมาหากัน เอ่อ พี่สงสัย" แกว่าพลางหัวเราะ ตอนแรกผมก็ว่าแหม แปลกๆ ไม่รู้หรืออย่างไร แต่ เอ่อ แต่รู้ยังไงล่ะ เอ่อ นั่นนะสิ ทำไมไม่โทร ทำไมต้องส่งข้อความ ผมเริ่มคิดตาม ส่งข้อความ เพื่อจะบอก
"มันเป็นความรู้สึกบางอย่างน่ะพี่เจี๊ยบ เป็นภาษาที่สื่อด้วยภาษาและความรู้สึกบางอย่าง ของคนสมัยใหม่ วัยรุ่นด้วย"
"คิดถึง ถ้าคิดถึงแล้วทำไมไม่โทรไปหา"
"ผมอธิบายไม่ค่อยถูก พูดถึงแล้วเราก็ส่งข้อความกันมาก อย่างตัวผมเอง คุยกับใครบางคนแล้ว ก็มิวายที่จะส่งข้อความไปอีก นอนแล้วนะ นอนยัง ตื่นได้แล้ว กินข้าวยัง คิดถึง...ใครนะเป็นคนคิดคำนี้ขึ้นมา เหมือนกับเรานึกถึงเขา อยากพูดกับเขา อยากสื่อสารอะไรบางอย่างไปถึงเขา รำพึงรำพันบ้าง แซวบ้าง เย้าแหย่บ้าง ถามไถ่เพราะอยากรู้ว่าเขาคิดอะไรยังไง คนเราคุยกันมากแล้วยังไม่พอ ไม่รู้เรื่องกัน หรือมันมีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น ใช่ ถ้าคิดถึงแล้วทำไมไม่โทรไปล่ะ ถ้าจะคุยก็แล้วทำไมไม่โทรไปคุย เอ่อ น่าคิด แต่บางทีคนเราก็แค่อยากส่งแค่ความรู้สึกบางอย่างไปถึง ไปให้รับรู้ บอกกล่าวให้ฟัง บอกข่าว" ผมบอกไปทำนองนี้ แต่สำหรับคนอย่างครูเจี๊ยบ เรื่องนี้เป็นที่สงสัยจริงๆได้ เราส่งอะไรต่อมิอะไรถึงกันพร่ำเพรื่อจริงๆไหม แน่นอนละว่าทุกวันนี้จำพวกข้อความ SMS ที่ส่งกันครึกคักนั้นไปปรากฏอยู่บนหน้าจอทีวีแสดงความคิดเห็นอะไรกันมากมาย มันเหมือนกับว่าอะไรสักอย่างสำหรับคนเรา แต่สำหรับครูเจี๊ยบนั้นตั้งข้อสงสัยขึ้นมา
วันหนึ่งครูเจี๊ยบอาจจะรู้ก็ได้ว่าข้อความเพียงข้อความที่เราส่งถึงใครบางคนนั้นมันทำให้เราเคลิ้มฝัน ยิ้มได้ทั้งวัน และทุกข์ขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับ กระวนกระวาย แต่ก็ดีแล้วที่เรายังมีอะไรมากมายไปกว่าคนที่เราถือเป็นใครบางคน ความรู้สึกบางอย่างที่มีต่อกันคือความสัมพันธ์อีกแบบ เรายังมีคนที่จะคุยจะส่งข้อความด้วยนัยยะที่ต่างกัน ส่งบทกวีถึงเพื่อน นัดหมาย ธุระปะปัง แต่กับคนทั่วๆไปที่ส่งข้อความจ๊ะจ๋าอะไรต่อมิอะไรถึงกันนั้น อาจเป็นไปได้ว่าเรายิ่งติดต่อสัมพันธ์กันง่ายดายเราดูเหมือนจะยิ่งว้าเหว่เปลี่ยวเปล่าความรู้สึกยิ่งๆขึ้นไป หรือว่านี่คือภาษาใหม่ที่มนุษย์เราจะสื่อส่งถึงกันยามที่รู้สึก เป็นเรื่องธรรมดา
การส่งข้อความถึงกันจะเชื่อมมนุษย์เราให้ใส่ใจต่อความรู้สึกต่อกัน หรือทำให้มนุษย์เราใช้อารมณ์อย่างอ่อนไหวอ่อนแอพร่ำเพรื่อง่ายดายเกินไป ใครจะให้คำตอบ
"ท่านมีวงเงินการใช้บริการครบจำนวนแล้วค่ะ"
"ลุ้นวันนี้กับโปรโมชั่นใหม่สุดแฮปปี้เพียงกด *1234"
"ขอให้พี่เบิร์ดหายไวไว"
"ขอเป็นกำลังใจให้พี่บิ๊ก"
อาจเป็นเพราะเราติดต่อพูดคุยกันมากและง่ายดายเกินไป บางอารมณ์บางครั้งแค่อยากให้ถ้อยคำข้อความนั้นพูดแทนความรู้สึกของเรา และทุกเรื่องราว
ผมอยากให้ครูเจี๊ยบได้เก็บความรู้สึก ครั้งแรกที่ได้รับข้อความนั้นไว้ และครั้งแรกที่ได้ส่งข้อความถึงใครคนหนึ่งไว้ หลายวันที่ครูเจี๊ยบได้โทรมาถามผมว่าได้ส่งข้อความมาให้หรือ และนานอีกหลายวันเมื่อส่งข้อความมาถึงผมและโทรมาคุยและถามผมถึงเรื่องนี้
ข้อความที่เราส่งถึงใครเป็นครั้งแรก ข้อความที่เราได้รับจากใครเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะต่างกับข้อความต่างๆที่เราส่งและรับข้อความอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ทุกๆข้อความที่รับหรือส่งถึงกันทุกเวลานาทีนี้ก็คงเป็นความรู้สึกที่ไม่ได้แตกต่างกัน
ต่างกันก็แต่ว่าทุกวันนี้คนจำนวนมากที่สุดคงจะน้อยที่สุดที่จะจำวันเวลาความรู้สึกและข้อความใดข้อความนั้นได้อีก
ตลอดกาล.