Party หนังสือ
ปฏิบัติการการุณย์รัก
ปฏิบัติการการุณย์รัก
หลักสำคัญ 3 ประการประจำชีวิต คือ 1.สัตย์ - ความจริง 2.สังยม - การควบคุมตัวเอง 3.เสวา - การรับใช้ผู้อื่น
วิโนพา ภาเว
ตอนที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ผมนึกถึงปฏิบัติการอุกอาจของสลัดอากาศที่บุกจี้เครื่องบินพุ่งเข้าชนตึกเวิลด์เทรดฯ ตึกแฝดกลางมหานครนิวยอรก กับอีกลำที่พุ่งชนตึกเพนตากอน ตึกที่ทำการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ตอนนั้นเพิ่งจะผ่านตาไปยังไม่ทันข้ามวัน
ผมเองก็เป็นอีกคนที่นั่งเฝ้าหน้าจอระทึกไปกับการถ่ายทอดสดการก่อวินาศกรรมสะท้านโลกครั้งนี้ ภาพเครื่องบินจัมโบ้ แหวกอากาศเข้าพุ่งเข้าชนยอดตึก-ควันไฟพวยพุ่งออกมาพร้อมกับระเบิดประ
กายเพลิงลุกท่วม-ตึกทั้งตึกค่อยๆทรุดร่วงถล่มลงจมพื้นราบเป็นหน้ากลอง -ฯลฯ ภาพเหล่านี้เราได้เห็นกันซ้แล้วซ้ำเล่าจากสำนักข่าวต่างๆ ยังสะทือนขวัญติดตาตรึงความรู้สึก ใครเลยจะคาดว่ารูปแบบการก่อการร้าย สมัยนี้จะก้าวล้ำไปไกลถึงเพียงนี้
ผมว่าเป็น "พล็อต" เรื่องที่แม้ฮอลลีวูดเองก็คงจินตนาการไปไม่ถึงก็ไม่รู้ล่ะครับว่าหลังจากนี้ อเมริกาในฐานะที่คิดว่าตัวเองเป็นตำรวจโลกจะตอบโต้ผู้มาลูบคมตนอย่างไร ที่แน่ๆ ไม่แคล้วว่าความรุนแรงคงจะ
เป็นทางเลือกในการแก้ปัญหา ซึ่งทำท่าว่าจะบานปลายไปกันใหญ่ เมือ จอร์จ บุช ประกาศว่านี่คือสงคราม เหมือนครั้งที่ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์ ซึ่งต่อมาอเมริกาก็บอมญี่ปุ่นกลับไปด้วยระเบิดปรมณูจนมีผู้เสียชีวิตนับแสนคน
ได้แต่ภาวนาอย่าให้ถึงกับเป็นชนวนให้เกิดสงครามครั้งใหญ่-สุดท้ายไม่ว่าอย่างไร ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจริงๆ ก็เห็นจะเป็นพลเรือน ตาดำๆ ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับเขานี่แหละ ยังไม่รู้ว่าจะเซ่นสังเวยให้กับความรุนแรงไปเท่าใด
ไม่ว่าตึกเวิลด์เทรดฯ จะเป็นสัญญลักษณ์ของทุนนิยมหรือเป็นมหานครของชาวยิว ผู้หนุนหลังอเมริกาอีกที หรือว่าสงครามครั้งนี้ จะเป็นการต่อสู้ระหว่างพระเจ้ากับทุนนิยม อะไรก็แล้ว ปฏิบัติการที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันนี้ ควรได้รับการประณามทั้งสิ้น
นับตั้งแต่นี้ก็ได้แต่ลุ้นระทึกว่าบุชจะเลือกแก้ปัญหาอย่างไร
สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
และไม่ว่าอะไรอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการสะทอืนขวัญครั้งน้ เป็นการระหว่างประเทศ เป็นการตอบโต้เอาคืนของศัตรู หรือเพียงตบหน้าสั่งสอน พี่เบิ้มอย่างสหรัฐให้พึงสังวรเสียบ้าง อะไรก็ตาม - มันก็อยู่บนพื้นฐานของการใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาทั้งสิ้น
ช่วงนั้น ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งให้มุมมองและทัศนต่อการแก้ปัญหาที่แตกต่างไปสิ้นเชิง หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า "ปฏิบัติการการุณย์รัก" เพิ่งจะลงแผงได้ไม่นาน ผมซื้อมาอ่านเพราะเห็นว่าเป็นงานที่มาจากอินเดีย นานมาแล้วที่ไม่มีหนังสือลักษณะนี้ออกมาให้อ่าน แล้วก็ไม่ผิดหวัง
หนังสือเล่มนี้เนื้อในนั้นเป็นบทบันทึกความทรงจำของวิโนพา ภาเว กล่าวถึงปฏิบัติการ "ภูทาน" วิโนพา
เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "นักบุญเดินเท้า" ของประเทศอินเดีย ได้ทำให้โลกตะลึงงันด้วยการปฏิบัติการยาตรา (แปลว่าเดินทางด้วยเท้า) ไปทั่วประเทศอินเดียเป็นเวลา 13 ปี เพื่อบิณฑบาต ที่ดินจากคนรวย นำมาแบ่งสันปันส่วนให้กับคนยากจน
"ภูทาน" หรือ "ภูมิทาน" ในทีนี้แปลว่าการให้ที่ดิน เป็นโครงการที่เกิดขึ้นภายหลัง จากท่านมหาตมคานธีมรณกรรมได้ไม่นาน วิโนพา ภาเว ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ก้นกุฏิของท่านคานธี ได้รับช่วงแนวคิดมาสานต่อ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเมืองและความยากจน ของอินเดียในขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่แนวคิดสั
งคมนิยมกำลังตื่นตัวประชาชนคนยากจนในอินเดียลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องสิทธิทางการเมือง และ
ความเสมอภาคทางสังคม วิโนพาเล็งเห็นปัญหาที่กำลังลุกลามอยู่ เขาจับชีพจรที่กำลังเต้นแรงของสังคมในเวลานั้นได้ดี จึงได้รณรงค์โครงการโครงการภูทาน ให้เกิดขึ้น
ด้วยการปลุกจิตสำนึกอุทิศตัวเพื่อผู้อื่น ผ่านการลงมือปฏิบัติให้เห็นจริงด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการดำรงชีวิตอย่างง่ายๆ กินอยู่ในแต่ละมื้อให้ง่ายที่สุดและถูกที่สุด และดำรงชีวิตอยู่ได้ เพื่อกระตุ้นให้คนรวยหันมามีวิถีชีวิต เช่นท่าน จะได้ลดละสละส่วนเกินที่มีแบ่งปันให้กับผู้อื่น
หนังสือเล่มนี้รวบรวมคำบรรยายที่ย่อยประสบการณ์ ในชีวิตจากปากคำของวิโนพา ภาเว โดยตรง อ่านไปอึ้งไป ค่อยๆบดย่อยความรู้สึก ทั้งอิ่มเอมด้วยอรรถรสจากตัวหนังสือที่กลั่นมาจากชีวิต เป็นหนังสืออีกเล่มที่ก่อแรงบันดาลใจและความเข้มแข็งให้กับผู้แสวงหาเพื่อลุความสำเร็จ และท้าทายต่อความศรัทธาในศักยภาพของมนุษย์
เป็นปฏิบัติการแห่งความรัก ที่ดีกว่าปฏิบัติการบุกจี้เครื่องบินชนตึกหลายร้อยหลายพันเท่า.
ผู้เขียน : ชาคริต โภชะเรือง