บทความ
คือพันธะ คือสาระ ไร้สาระ ...คือชีวิต
กี่ครั้งแล้วเล่าหนอคนเรา ที่สับสนทดท้อในชีวิต ในหน้าที่การงาน ครอบครัวและความรัก
จนทำให้หัวใจห่อเหี่ยว หมดเรี่ยวแรงจะคิดทำอะไรได้ต่อไป อยากหยุดอยู่นิ่งๆ หรือไม่ก็อยากหายไปจากโลกนี้ไปเสียดื้อๆ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ไม่มีใครสามารถสลัดหลุดพ้นกรอบกรงอันหนักหน่วงนี้ไปได้
เพราะยังไงๆ เราก็ต่างมีพันธะ แม้บางห้วงยามหลายคนอาจมองเห็นว่ามีชีวิตอยู่เพียงลำพังนั้น แสนสบาย ไม่ต้องกังวลกับคนรอบข้าง
แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นเข้ารุมเร้า เข้าพันธนาการรอบกาย มองหนทางข้างหน้านั้น มีแต่ความมืดมนและมายา มีแต่เรื่องที่ไร้สาระ ไม่มีความจริงใจให้กัน
บางคนเฝ้าถามตัวเอง...หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
จะมีบ้างไหม ชีวิตที่แสนงาม สะอาด สงบ และเรียบง่าย ไม่ต้องวุ่นวาย เฝ้าคอยแก่งแย่งแข่งขัน ไม่ต้องมาจ้องรบราฆ่าฟันกันทางความคิด บั่นทอนความรู้สึกกันอย่างนี้
เถิด,ปล่อยให้มันเป็นไป
อย่าหวั่นไหวแม้ความหวังพังสลาย
แม้ความฝันแหว่งวิ่นสิ้นมลาย
แต่อย่าหมายว่าชีวิตจักสิ้นสูญ
พยายามให้กำลังใจตัวเอง บอกกับตัวเอง ยิ้มรับกับความพ่ายหวัง แต่จะไม่ยอมหมดหวัง พยายามเรียนรู้ในความโดดเดี่ยว เรียนรู้ในความทุกข์ที่เข้ามาถาโถม
หาเวลาว่างให้กับชีวิต เดินทางไปบนหนทางที่ไม่เคยรู้จัก ไต่ไปบนเส้นทางสูงชันบนภูเขา หยุดนิ่งพักใต้ร่มเงาไม้ในหุบเขา
ปล่อยให้สายลมพัดมาบ่มเพาะความรู้สึก ปล่อยให้แสงแดดส่องมาทักทาย ปล่อยให้สายฝนราดรดร่างกายให้เย็นฉ่ำ ปล่อยให้ความเหน็บหนาวเกาะกุมหัวใจ เพื่อให้ชีวิตได้รู้จักชีวิต รู้จักร้อนรู้จักหนาวเย็น รู้จักความเจ็บปวดในยามที่ถูกหนามไหน่เกาะเกี่ยว จนกลายเป็นบาดแผล
ร้องไห้เถิด,ถ้าเธออยากร้องไห้
แม้โลกจักร้างไร้หรือหยุดหมุน
รินไหลมาเถิดน้ำตาความอาดูร
แม้ทุกข์นั้นจะเพิ่มพูนให้ชีวิต..
หากยังมีอีกหลายคน ที่ไม่กล้าแม้ที่จะคิด ไม่กล้าที่แหวกกรอบกรงอันแน่นหนานั้นได้ เพราะยังหวั่นหวาดขลาดกลัว ชีวิตจะพลาดหวัง กลัวในสิ่งที่ไม่อาจรู้ล่วงหน้า ยังลังเลที่จะก้าวออกมา สุดท้าย,ยินยอมจ่อมจมอยู่ในห้องหับแห่งเศร้าหมองและหดหู่ กอดกับความว่างเปล่าและร่ำไห้กับความเดียวดาย...
โลกยังกว้างทางยังไกล... มองโลกใหม่อย่าสั่นไหวอย่าอดสู ยังมีคนเข้าใจและเฝ้าดู เธอจะอยู่ เธอจะสู้หรือท้อถอย