ก๊วนปาร์ตี้ [ BOOK Party Gang ]

เอเอฟพี - มาริโอ วาร์กาส โยซา นักเขียนระดับมหากาฬแห่งเปรู อีกทั้งยังเป็นขาใหญ่แห่งวงการวรรณกรรมย่านละตินอเมริกา ซึ่งไปโด่งดังในด้านการเมืองอีกต่างหากด้วยการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แห่งเปรูเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว ได้รับการตัดสินให้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ประจำปี 2010 ข่าวเรื่องนี้ประกาศกันออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี (7)

มาริโอ วาร์กาส โยซา (Mario Vargas Llosa) ตัวเก็งของรางวัลโนเบลอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ได้รับรางวัลที่ไปครองจนได้ ในยามที่เขาเจริญวัยไปถึงหลักปีที่ 74 โดยที่ว่าผลงานสำคัญของเขาได้แก่ "Conversation in the Cathedral" (บทสนทนาในวิหาร) และ "The Feast of the Goat" (งานฉลองของแพะ)

นอกจากนั้น วาร์กาส โยซา ยังเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่โดดเด่น โดยทุกวันนี้ยังเขียนประจำให้แก่หนังสือพิมพ์รายวันของสเปนคือ El Pais

ที่ผ่านมา วาร์กาส โยซา คว้ารางวัลใหญ่ๆ ในด้านวรรณกรรมมานับไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รางวัลเกียรติยศสุดยอดสำหรับนักเขียนในแวดวงภาษาสเปน คือ รางวัล Cervantes Prize

“ผมไม่แม้แต่จะคิดว่าจะได้เข้ารอบด้วยซ้ำครับ” วาร์กาส โยซาเผยความในใจต่อสถานีวิทยุอาร์ซีเอ็นของโคลvมเบีย ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ที่ทำกันในนิวยอร์ก แป๊บๆ หลังจากที่ผลการตัดสินถูกประกาศออกมาจากประเทศสวีเดน

“ผมคิดว่ามันเป็นการให้ความยอมรับแก่วรรณกรรมของละตินอเมริกา และวรรณกรรมในภาษาสเปน ซึ่งเป็นอะไรที่เราทุกคนมีความสุขร่วมกันได้ครับ” วาร์กาส โยซา ว่าอย่างนั้น

ด้าน ปีเตอร์ อิงลุนด์ เลขาธิการของ บัณฑิตยสภาแห่งสวีเดน ซึ่งเป็นผู้ตัดสินรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม บอกว่า วาร์กาส โยซาเป็นหนึ่งในนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของละตินอเมริกา โดยเทียบเคียงเขากับบรรดานักเขียนชั้นเทพอย่าง วิกเตอร์ ฮิวโก้

“เขาเป็นนักเขียนที่โยงใยอยู่กับสังคม .. เขารู้ว่านักเขียนไม่ควรให้ความสำคัญอันดับต้นแก่เรื่องของความบันเทิง แต่ควรนำเสนอหนทาง เล่าความจริง ตั้งคำถาม และเป็นจิตสำนึกแก่สังคม” อิงลุนด์พรรณนาไว้กับกองทัพนักข่าว

ในการประกาศผลตัดสินรางวัลคราวนี้ บัณฑิตยสภาสวีเดน สรรเสริญคุณค่าของงานของวาร์กาส โยซา ในประเด็นของ “การมีผังภาพอันชัดเจนถึงโครงสร้างแห่งอำนาจ และการให้ภาพของบุคคลในการต่อต้าน การต่อสู้ และการพ่ายแพ้”

วาร์กาส โยซาเป็นคนเปรู โตขึ้นมากับคุณแม่และคุณตาในโบลิเวีย ก่อนจะย้ายกลับมาเปรูเมื่อปี 1946 โดยมายึดอาชีพนักหนังสือพิมพ์ ในเวลาต่อมาคือในปี 1959 เขาย้ายไปใช้ชีวิตในฝรั่งเศส โดยเป็นครูสอนภาษา พร้อมกับเป็นนักข่าวให้แก่สำนักข่าวเอเอฟพี ควบกับสถานีโทรทัศน์เฟรนช์ เทเลวิชั่น ก่อนที่จะปักหลักสร้างชื่อเสียงโด่งดังในอาชีพนักเขียน

ความสำเร็จในสายงานนี้มาพร้อมกับนวนิยายเรื่อง "The Green House" (บ้านสีเขียว) ซึ่งถูกถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษในปี 1966 นับจากนั้น วาร์กาส โยซา ก็ผลิตงานระดับขายดี เบสท์ เซลเลอร์ ออกสู่บรรณพิภพไม่ได้ขาดสาย โดยที่ว่าส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเด็นการเมืองและประวัติศาสตร์อัน ทุกข์ทนของละตินอเมริกา

วาร์กาส โยซาสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งเปรูในปี 1990 ในแนวทางกลางขวา แต่แพ้ยับเยินให้แก่อัลแบร์โต ฟูจิโมริ ผู้ซึ่งต่อมากลายเป็นอดีตประธานาธิบดีที่อื้อฉาวด้วยสารพัดข่าวอัปยศ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ตุลาคม 2553 20:30 น.