บทความ
จดหมายรัก...ของ ยาขอบ
จดหมายรัก...ของ ยาขอบ
สำนวนรักย้อนยุค... " จดหมายรักในชีวิตจริงของยาขอบ " ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๑๖
การเขียนจดหมายนั้น จากความจริงใจในด้านของฉัน ก็รู้สึกว่าไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรแก่ดาผู้รับเลย ฉันมิได้เขียนเพราะเหตุหวังว่า ตัวหนังสือของตัวจะไปเป้นเครื่องให้ความชื่นใจแก่อีกฝ่ายหนึ่ง ฉันเขียนเพื่อความชื่นใจของตัวเอง ในอันที่ได้ระบายความรู้สึกอย่างซื่อตรงจงรักไปถึงฝ่ายรับ
ฉันเป็นคนเลวอย่างหนึ่งที่ซ่อนใจไม่ได้ ทั้งที่พยายามเต็มที่ จะไม่ให้ความนึกคิดข้างในใจ ออกมาที่สีหน้า บางทีคุณจะสงสารฉันขึ้นมาบ้าง จึงตอบแต่เพียงว่า คุณนึกว่าเป็นความเมตตาอย่างยิ่งอยู่แล้ว สำหรับที่จะให้แก่คนที่คุรมิได้สงสารจริงจังหนักแน่น ด้วยการตอบเพียงเท่าที่ตอบมาแล้ว คุณคงนึกว่าเช่นเดียวกับส่งสตางค์แดงอันหนึ่งให้ขอทาน สงสารนิดหน่อย แต่ประสงค์อย่างยิ่งนั้นคือ ตัดความรำคาญและนึกว่าสตางค์อันเดียว ขอทานมันก็คงดีใจ แต่ขอทานอย่างฉัน การประจักษ์กิริยาว่า เขาทำบุญอย่างเสียมิได้ มันเจ็บลึกลงไปเสียยิ่งกว่าถูกบอกให้ไปข้างหน้า เพราะการทำบุญอย่างเสียมิได้นั้น เราทำให้เขาเสียประโยชน์เพื่อซื้อความรำคาญเปล่าๆ ซึ่งร้ายกว่าเห็นเขารำคาญโดยไม่ได้เสียประโยชน์...
การเขียนเป็นความสุขของฉัน โปรดอนุญาตให้ฉันเขียน แม้จะยิ่งกว่าไม่ตอบจะเลยไปถึงไม่อ่านด้วย ก็ขอเพียงอย่าห้ามเขียน ขอย้ำว่า ความเสียใจของฉันมิได้ใช้เป็นเครื่องมือที่จะดึงความสนใจของคุณ ไม่จำเป็นต้องกังวลโดยพยายามในเรื่องความเสียใจทั้งนี้...
ขอบอกว่า ถ้าคุณคิดจะกัดแขนคุณเอง เพื่อให้ดาพันผ้าให้อีกล่ะก้อ อย่าได้ทำเลย บาดแผลที่เนื้อแขนคุณ เท่ากับแผลที่หัวใจของดาโดยแท้ การเจ็บเนื้อย่อมไม่เป็นพิษร้ายเท่าเจ็บที่หัวใจใช่ไหมคะ.....
โปรดทราบไว่ด้วยหัวใจว่า หัวใจของพนิดามิใช่สายน้ำ ที่เมื่อทิ้งของอื่นลงไปกีดขวางทางเดิม แล้วจะไหลเบนไปในทางอื่นได้.....
ความรักที่จริงจัง อาจเดินไปบนทางที่ลาดด้วยดอกกุหลาบ แต่ทางที่ขรุขระนั้นถ้าไม่จริงจัง ก็ไม่มีใครเขากัดฟันเดิน เพราะฉะนั้นในทางที่ขรุขระ จึงเป็นเรื่องของการวัดน้ำใจและความอดทน...
การที่บอกว่ายังรักคนที่เขาเกลียดเรานั้นเป็นความผิดอะไรเล่า หรือว่าฉันเลวจนกระทั่งจะรักคุณข้างเดียวก็ไม่ได้ยังงั้นหรือ มันเกินไปละ...
ความอิจฉา ความน้อยใจ เป็นเรื่องห้ามกันไม่ได้ ฉันมีสิทธิที่จะน้อยใจพฤติการณ์บางอย่างของเขา นี่มันเป็นเรื่องของจิตใจฉัน ซึ่งเมื่อมันเกิดก็ย่อมเกิด แต่ฉันก็ต้องสะกดมันเอง ....
แทบร้องไห้เพราะคิดถึงความว้าเหว่ของตัวเอง แล้วก็ตั้งปัญหาถามตัวเอง ทำไมเราจึงมานอนอยู่เช่นนี้ เราต่อสู้เพื่ออะไร ซึ่งก็ได้คำตอบอันน่าสลดว่า ต่อสู้เพื่อความไม่มีเยื่อใยของคนๆเดียว ....
คนเรานี่มีความโลภเหลือเกิน ที่จริงฉันควรเกลียดพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้ไม่มีดา แต่มันกลับเกลียดวันนี้ ด้วยไปรู้สึกว่าอาทิตย์พรุ่งนี้ เราจะไม่ได้พบกันทั้งวัน เที่ยวให้เบิกบานนะคะคนดี แต่อย่าทำปากบุ๋มกับใคร.....
www.bloggang.com