บทความ

สุนทรภู่ กวีครู ผู้มากเมา (1)

by Pookun @June,28 2007 14.32 ( IP : 222...200 ) | Tags : บทความ

สุนทรภู่ กวีครู ผู้มากเมา (1) ตอน : เมาเหล้า /ปิ่น บุตรี

โดย ปิ่น บุตรี 26 มิถุนายน 2550 16:42 น.

      วันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช 1148 หรือวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 เวลา 2 โมงเช้า(แปดนาฬิกา) ในสมัยรัชกาลที่ 1 หลังสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี (26 มิ.ย.50 ที่ผ่านมา ถือเป็นวันสุนทรภู่)
      สองผัวเมียที่เพิ่งตกล่องปล่องชิ้นเป็นครอบครัวกันใหม่ๆในย่านวังหลัง คลองบางกอกน้อย ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งขึ้นมา พร้อมๆกับตั้งชื่อบุตรชายคนนั้นว่า “ภู่”

              สุนทรภู่ครูฉัน      เกิดวันจันทร์ปีม้า       ยี่สิบหกมิถุนา              เมื่อเวลา 8 น.
      จากหนังสือ สุนทรภู่ : มหากวีกระฎุมพี(ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ)
      หลังเด็กชายภู่ถือกำเนิดได้มีผู้ผูกดวงชะตาพร้อมฟังธงว่า ดวงชะตาของเด็กคนนี้ตรงกับ“อาลักษณ์ขี้เมา” ซึ่งก็แม่นไม่น้อยทีเดียว
      เพราะดูเหมือนว่าเด็กชายภู่เมื่อเติบใหญ่ จนได้รับการยกย่องให้เป็น“พระสุนทรโวหาร” หรือที่นิยมเรียกกันแบบสามัญว่า“สุนทรภู่” หนึ่งในกวีเอกแห่งสยามประเทศนั้น ชั่วชีวิตของท่านล้วนต่างเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเมาๆอยู่เป็นนิจ
      ดังคำที่ “พระราชธรรมนิเทศ”ได้ร้อยรจนาบทกลอนด้วยความรักใคร่และยกย่องท่านสุนทรภู่ว่า
              สุนทรภู่ครูกวีมีชื่อนัก       ว่าเมาเหล้าเมารักเมาอักษร       ทั้งสามเมาเข้าอิงสิง “สุนทร”       ไม่มีวันพักผ่อน หย่อนใจกาย
              ถ้าไม่เมาสุราหรือนารี       ก็เมาการกวีเป็นที่หมาย       ในชีวิตตั้งแต่เกิดจนถึงปลาย       “ภู่”ๆไม่วายว่างเว้นเป็นคนเมา

      เมาเหล้า...
      เป็นที่รู้กันดีในบรรดาผู้ที่ติดตามเรื่องราวของสุนทรภู่ว่า ท่านเป็นนักดื่มสุราตัวฉกาจชนิดหาตัวจับยาก และดื่มอยู่เป็นนิจตั้งแต่เริ่มหนุ่มไปจนถึงช่วงบั้นปลาย ประมาณว่าเป็นน้ำเมาเป็นน้ำทิพย์ จะมีว่างเว้นบ้างก็เห็นจะเป็นยามที่ท่านบวชเป็นพระเท่านั้น
      แน่นอนว่าหากใครที่ดื่มเหล้าแบบมากมายเกินพอดี ผลเสียย่อมตกแก่ตัวเองเป็นอันดับแรก สำหรับท่านสุนทรภู่ก็เช่นกัน ไม่มีข้อยกเว้นแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าการเมาของสุนทรภู่ในหลายๆครั้งก็ถือว่าเป็นคุณต่อวงการกวีอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อท่านดื่มแบบกำลังดีจนเกิดอารมณ์กวีหรืออารมณ์ศิลปินลุกโชนท่านก็จะร้อยรจนาถ้อยคำออกมาเป็นบทกลอน บทกวี ยิ่งท่านเป็นนักเลงทางเพลงด้วยแล้ว พอเหล้าเข้าปากเมากรึ่มๆได้ที่ ก็คงด้นกลอนปร๋อทีเดียว ถึงขนาดมีคนว่ากันว่าในบางครั้งท่านสามารถบอกนิทานกลอนสองเรื่องสลับกันไป-มาได้ในครั้งเดียวแน่ะ
      เรื่องการดื่มของสุนทรภู่นี้ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าไว้ในบันทึกประวัติสุนทรภู่ว่า เมื่อสุนทรภู่คิดกลอน ถ้าได้ดื่มเหล้าเข้าไป จะคิดกลอนคล่องถึงขนาดสองคนจดไม่ทัน นอกจากนี้สมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯยังเล่าว่า เคยๆได้ยินผู้อื่นเล่าถึงวิธีการแต่งกลอนของสุนทรภู่ว่า มีข้าหลวงหรือชาววังถือเหล้าไปหาสุนทรภู่ขวดหนึ่ง แล้วบอกสุนทรภู่ว่า “เสด็จให้มาเอาเรื่อง” จากนั้นสุนทรภู่ก็เริ่มกินเหล้าพลาง บอกเรื่องพลาง แล้วข้าหลวงก็ได้เรื่องไปถวายทันที
      นี่ย่อมแสดงให้ว่า สุนทรภู่ท่านเป็นอัจฉริยะด้านกาพย์กลอนอย่างแท้จริง แถมบางครั้งยิ่งเมามาย ความเป็นอัจฉริยะกลับยิ่งเพิ่มพูน
      ส่วนหากพูดถึงความเป็นนักดื่มของท่านสุนทรภู่แล้ว ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ระบุว่าท่านดื่มหนักมากๆตอนที่มีอายุได้ราว 40 ปีเศษ เห็นจะได้ ส่วนที่ยังคลุมเครือก็เห็นจะเป็นเรื่องการเลิกเหล้าของสุนทรภู่ เพราะบันทึกบางเล่มก็ระบุว่าท่านดื่มไปตลอดชีวิต แม้กระทั่งถูกจับติดคุกในสมัยรัชกาลที่ 2 เพราะสุรา แต่พอออกมาก็ยังคงดื่มอยู่ ในขณะที่บางตำราระบุว่าสุนทรภู่ท่านน่าจะดื่มอย่างหนักในสมัยวัยหนุ่มที่กำลังคึกคะนอง และสามารถเลิกเหล้าได้เด็ดขาดในบั้นปลาย เพราะหากเป็นคนขี้เมาจริงๆก็คงไม่อาจสร้างสรรค์วรรณกรรมอันยอดเยี่ยมได้มากมาย
      มีเรื่องน่าแปลกในความเป็นนักดื่มของสุนทรภู่อย่างหนึ่งก็คือ บทกวีที่ท่านแต่ง กลับกลายเป็นบทกวีเตือนใจเกี่ยวกับสุราเมรัยเสียมากกว่า เช่นในสุภาษิตสอนหญิงที่กล่าวว่า
              คิดถึงตัว หาผัว นี้แสนยาก       มันชั่วมากนะอนงค์อย่าหลงใหล       คนสูบฝิ่นกินสุราพาจัญไร       แม้นหญิงใดร่วมห้องจะต้องจน
      หรือบทกลอนสุดคลาสสิคที่สอนใจและชี้ให้เห็นถึงโทษของเหล้าอย่าง
              ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันขโมง       มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา       โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา       ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย               ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ       พระสรรเพชญ์โพธิญาณประมาณหมาย       ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย       ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินจนเกินไปฯ       (นิราศภูเขาทอง)
      แต่ถึงจะกินเหล้ามามากแค่ไหนหากวันรุ่งขึ้นไม่ถอนก็ย่อมมีแฮงก์และสร่าง ที่อาจจะมีปวดหัวทรมาน อ้วกแตกอ้วกแตนบ้าง แต่ว่าต่อให้เมาขนาดไหน สำหรับสุนทรภู่แล้ว ยังไงๆมันก็ไม่เท่ากับอาการ“เมารัก”หรอก
              ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก       สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน       ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป       แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน       (นิราศภูเขาทอง)
      สำหรับเรื่องการเมารักของสุนทรภู่นั้นผมจะขอยกไปกล่าวถึงในตอนต่อไป ส่วนตอนนี้เมื่อมานั่งนึกๆดูว่า อันตัวเรา แม้จะยึดถือท่านสุนทรภู่เป็นบรมครูต้นแบบมาช้านาน ถึงขนาดเคยพยายามเดินตามรอยท่านสุนทรภู่อยู่หลายครั้งหลายครา ไม่ว่าจะเป็นการหัดเขียนกวีโคลงกลอน การออกเที่ยวตามเส้นทางนิราศของท่าน แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ผมได้ไปเต็มๆจากการเดินตามรอยสุนทรภู่ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการเมาสุรา เมรัย ที่แหละ
      เฮ้อ...ไหงเป็นงี้ไปได้ก็ไม่รู้!?!
      ...(อ่านต่อตอนหน้า)

Comment #1
จารุณี
Posted @September,01 2007 13.24 ip : 125...84

ทำไมสุนทรภู่จึงถูกขังอยู่ในคุก

Comment #2
จี
Posted @June,14 2010 19.55 ip : 117...222

ไม่รู้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น

« 9495
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซท์
"ก๊วนปาร์ตี้"
เว็บไซท์นี้เปิดมาเพื่อ เป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับบันทึกเรื่องราว ทางด้านวรรณกรรม ทุกรูปแบบ ท่านสามารถส่งบทความ - เรื่องสั้น - บทกวี เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันอ่าน โดยคลิกส่งได้จากด้านล่างนี้
คลิกเพื่อ >> ส่งบทความ | ส่งเรื่องสั้น | ส่งบทกวี | ปกิณกะ