บทความ

ฌอง-มารี กุสตาฟ เลอ เคลซีโอ โนเบลวรรณกรรม 2008

by Pookun @October,18 2008 17.09 ( IP : 222...23 ) | Tags : บทความ

ฌอง-มารี กุสตาฟ เลอ เคลซีโอ

ก่อน หน้านี้ชื่อของนักประพันธ์เมืองน้ำหอมอย่าง ฌอง-มารี กุสตาฟ เลอ เคลซีโอ (Jean-Marie Gustave Le Clezio) หรือ J.M.G. Le Clezio คงจะไม่ค่อยคุ้นหูเราๆ-ท่านๆ มากนัก

แต่หลังจากนี้อาจจะได้รู้จักผู้ชายมากขึ้น จากสื่อต่างๆ ทั่วโลกที่จะช่วยเผยทั้งตัวตนและผลงานของเขา

เพราะ เลอ เคลซีโอ เจ้าของวาทะที่ว่า ภาษาฝรั่งเศสเป็นขุมทรัพย์มูลค่ามหาศาลทางความรู้สึกของเขา คือนักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสคนล่าสุด ซึ่งได้รับรางวัลคัดสรรอันทรงเกียรติอย่าง รางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ตามรอยรุ่นพี่ชาติเดียวกันอีก 13 คนมาติด ๆ

เลอ เคลซีโอ เกิดเมื่อปี ค.ศ.1940 ในวัยเยาว์ชีวิตของเขาผูกติดกับการเดินทาง เพราะครอบครัวของเขาโยกย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นนิว เม็กซิโก, แอฟริกา หรือแม้แต่เกาะกลางทะเลอย่างมอริเชียส มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พ่อของเลอ เคลซีโอ กำลังไล่ตามความฝันของตัวเอง เขา แม่ และพี่ชาย จึงตัดสินใจเดินทางไปที่ไนจีเรียและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายโดยไม่ต้องศึกษาจากโรงเรียน (เคยพรรณนาชีวิตช่วงนี้ไว้ใน Onitsha นวนิยายกึ่งอัตชีวประวัติของเขา เมื่อปี 1991) แต่วิถีส่วนใหญ่ของครอบครัวนี้คือ เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส

แม้ ว่าช่วงชีวิตที่กลับมาตั้งถิ่นฐานในเมืองนีซ จะเป็นระยะเวลาที่กำลังเกิดสงคราม ครอบครัวจึงลำบากบ้าง แต่ก็ทำให้เขาได้รับการศึกษาตามระบอบของสังคม ในปี 1957 เลอ เคลซีโอ ได้ตัดสินใจที่จะศึกษาต่อด้านวรรณกรรมและปรัชญา ทั้งที่มหาวิทยาลัยบริสตอล (Bristol University) มหาวิทยาลัยลอนดอน (London University) สถาบันวรรณกรรมแห่งเมืองนีซ มหาวิทยาลัยเอกซ์-ออง-โปรวองซ์ และสุดท้ายกับปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิตจาก University of Perpignan ก่อนที่จะเดินทางไปสอนตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก อาทิ University of New Mexico, The Boston University, University of Texas รวมถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์ในประเทศไทย เมื่อปี 1966-1967 ด้วย

เส้น ทางแห่งบรรณพิภพของนักเขียนคนนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่เขาอายุเพียง 8 ขวบ ในรูปแบบของบทกวี เลอ เคลซิโอ ถ่ายทอดมุมมองและความรู้สึกผ่านตัวอักษร ด้วยแนวคิดที่ว่า "การเขียนสำหรับผมไม่ต่างจากการเดินทาง ที่ทำให้ผมได้สำรวจทั้งชีวิตของตัวเองและคนอื่น" ก่อนที่ผลงานสมบูรณ์แบบชิ้นแรกจะก้าวมาพร้อมกับชื่อเสียง เมื่ออายุเพียง 23 ปี หลังจากที่นวนิยายเรื่องแรกของเขา Le Proces-Verbal (The Deposition) จะได้รับรางวัล Renaudot Prize

Le Proces-Verbal เป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความอ้างว้างและสิ้นหวังของเมืองทันสมัยใน ซีกโลกตะวันตก อดัม พอลโล ตัวละครเอกของเรื่อง เป็นชายหนุ่มผู้อ่อนไหวและไม่แน่ใจในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเสมอ ไม่ต่างกับสุนัขเร่ร่อนที่หลงทางในเมืองกว้าง จนก่อเกิดการกระทำที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นพฤติกรรมที่ปลุกปั่นสังคมให้ปั่น ป่วน และจุดจบของชายคนนี้คือเตียงนอนในโรงพยาบาลบ้า

นั่นเป็นจุด เริ่มต้นที่ทำให้เลอ เคลซีโอ ถูกจับตามองในนักเขียนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้แวดวงวรรณกรรมผิดหวัง เพราะหลังจากนั้นปลายปากกาของเขาก็สะบัดอย่างต่อเนื่อง

เลอ เคลซีโอ เชื่อว่าประสบการณ์ต่างถิ่นและการเดินทางแทบจะทั่วโลก ซึ่งทำให้เขาได้เห็นการปะทะกันระหว่างวัฒนธรรมอยู่เสมอๆ เป็นพื้นฐานสำคัญที่สร้างบางกระแสสำนึกขึ้นมาในจิตใจของเขา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความรู้สึกของคนเล็กๆ โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยของสังคม ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ปลาใหญ่กินปลาเล็ก และความคิดนั้นก็สะท้อนในผลงานของเขากว่า 30 เรื่องอยู่อย่างสม่ำเสมอ ในหลากประเภททั้งเรื่องสั้น นวนิยาย บทความ งานวิจารณ์ต่างๆ รวมถึงงานแปลชิ้นสำคัญซึ่งสื่อถึงจิตวิญญานแห่งอินเดียอีก 2 เรื่องด้วย

บ่อยครั้งที่ตัวละครของเขามักจะเป็นคนสันโดษ ที่ต้องพยายามหาทางรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับคำว่าทันสมัย ซึ่งถาโถมเข้ามาในชีวิตอย่างรวดเร็ว บ้างก็แสดงถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมระหว่างคนกลุ่มใหญ่และคนชายขอบ รวมถึงการปะทะกันทางวัฒนธรรมในโลกโลกาภิวัตน์ ซึ่งเลอ เคลซิโอ มองว่าความเชื่อแห่งโลกตะวันตกกำลังพยายามรุกล้ำและครอบงำวัฒนธรรมท้องถิ่น อย่างในเรื่อง In Desert (1980) ซึ่งได้รับรางวัล Grand Prix Paul Morand เล่าถึง ลัลลา หญิงสาวจากชนเผ่าเร่ร่อนจากทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งความสวยแปลกของเธอได้ส่งให้ลัลลากลายเป็นนางแบบระดับโลก แต่สุดท้ายแล้วเธอก็กลับไปยังทะเลทราย แผ่นดินเกิดของเธอ

แม้ประเด็น ความคิดของผู้ชายคนนี้จะน่าทึ่ง ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีในความร่วมสมัยที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและ กระตุ้นเตือนบางความคิดแนวขบถให้เกิดแก่ผู้อ่านจนมีการแปลในหลายภาษาทั่วโลก แต่มักจะมีเสียงบ่นจากนักอ่านบ่อยๆ ว่า การสื่อสารของเขาค่อนข้างที่จะเข้าถึงยาก

ปัจจุบันเลอ เคลซิโอ ยังคงเดินทางรอบโลกเช่นในวัยเยาว์ เพียงแต่การเดินทางของเขาไม่ได้เป็นเพียงการก้าวอย่างเป็นรูปธรรมเฉกอดีต เท่านั้น แต่หมายถึงการลากเก้าอี้มานั่งหน้านั่งโต๊ะ แล้วหยิบปากกามาถ่ายทอดเรื่องราวบนกระดาษด้วย

เพราะเมื่อการเดินทางช่วยเติมเต็มชีวิตภายนอก การเขียนก็ช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณภายในให้สมบูรณ์

ที่มา - มติชนรายวัน วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11179

Comment #1
เอ้
Posted @September,29 2010 11.49 ip : 61...90

ยอดไปเลย !

แสดงความคิดเห็น

« 6054
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซท์
"ก๊วนปาร์ตี้"
เว็บไซท์นี้เปิดมาเพื่อ เป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับบันทึกเรื่องราว ทางด้านวรรณกรรม ทุกรูปแบบ ท่านสามารถส่งบทความ - เรื่องสั้น - บทกวี เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันอ่าน โดยคลิกส่งได้จากด้านล่างนี้
คลิกเพื่อ >> ส่งบทความ | ส่งเรื่องสั้น | ส่งบทกวี | ปกิณกะ