บทความ

ประเทศใต้...เรื่องของชายผู้ตามหาโนราห์

by kai @August,05 2009 11.34 ( IP : 222...167 ) | Tags : บทความ

รายงานโดย :อินทรชัย พาณิชกุล:

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ชาคริต โภชะเรือง ชื่อนี้มิใช่หน้าใหม่ในวงการวรรณกรรมแต่อย่างใด

นาน 18 ปีแล้วที่นักเขียนจากบ้านดอนประดู่ ต.ห้วยลึก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ผู้นี้ จรดปลายปากกาสร้างสรรค์ผลงานการเขียนออกมาเป็นเรื่องสั้น บทกวี และสารคดีทั่วไป ลงตีพิมพ์ตามหน้านิตยสารต่างๆ จนทำให้ชื่อของเขาได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างมากในฐานะมือเขียนเรื่องสั้น คุณภาพอีกคนหนึ่งของภาคใต้

แล้วเมื่อนวนิยายเล่มแรกในชีวิตที่ชื่อว่า ประเทศใต้ จากสำนักพิมพ์ก๊วนปาร์ตี้ ผ่านทะลุเข้าสู่รอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ประจำปี 2552 นั่นจึงทำให้ชาคริต โภชะเรือง ถูกจับตามองอีกครั้ง พร้อมกับผลงานเล่มล่าสุดของเขาเล่มนี้ “ประเทศใต้” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการตามหาสิ่งมีค่าที่สูญหายไปจากชีวิตและท้องถิ่น โดยใช้ “มโนราห์” เป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งที่สูญหาย อันสื่อนัยถึงคุณค่าที่เคยมีพลังแนบแน่นอยู่ในวิถีชีวิต และร้อยรัดผู้คนกับสรรพสิ่งต่างๆ ให้ยึดโยงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

“เป็นเรื่องของการตามหาคุณค่าทางจิตวิญญาณที่หายไป โดยใช้โครงเรื่องของวรรณคดีเก่าแก่เรื่องพระสุธนมโนราห์ ซึ่งในแง่เรื่องราววรรณคดี เราจะเห็นว่าตัวละครเอกพระสุธนออกตามหานางเอก นั่นก็คือนางมโนราห์ พอเข้าไปในป่าหิมพานต์ก็พบเจอด่านปัญหาอุปสรรคต่างๆ นานาคอยขวางกั้น จนสุดท้ายก็ได้พบนางมโนราห์...มันเหมือนกับคนที่ตามหาอะไรบางอย่าง แล้วเจออุปสรรคต่างๆ ก็ฟันฝ่าจนผ่านพ้นไปได้ สุดท้ายเขาก็จะเจอในสิ่งที่กำลังค้นหาในที่สุด” ชาคริต กล่าว

ทั้งนี้ ผู้เขียนตั้งใจสร้างความคลุมเครือให้มโนราห์ เป็นคุณค่าทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม โดยใช้กลวิธีในการประพันธ์ให้ผู้อ่านต้องขบคิด ตีความ และร่วมรับรู้ไปกับการวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาท้องถิ่นภาคใต้อยู่ตลอดเวลา ชี้ให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนในท้องถิ่นยังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่มักจะหวนกลับมาซ้ำรอยเดิมอยู่ เสมอ ผ่านการเล่าเรื่องที่เดินไปข้างหน้า ทว่ากลับหวนคำนึงถึงอดีตที่ผ่านเลยอยู่ตลอดเวลา

“ประเด็นดังกล่าวทั้งหมดข้างต้นปรากฏอย่างชัดเจน ผ่านสารพัดปัญหาที่ ‘สุธน’ ตัวเอกของเรื่อง พบเจอขณะเดินธรรมยาตรา ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ชุมชน ปัญหาความขัดแย้งในการยึดครองทรัพยากร ปัญหาแบ่งแยกที่ดินทำกินที่เรื้อรังมาทุกยุคทุกสมัย ปัญหาทางสังคมและการเมือง ตั้งแต่ยุคถีบลงเขาเผาลงถังแดงมาจนถึงปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบัน

เมื่อตัวละครเจอปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ก็เหมือนเป็นการตั้งคำถามและค้นหารากเหง้าว่าเราจะเริ่มต้นแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งสุดท้ายตัวละครก็พบว่าสิ่งที่ตัวเองพอจะทำได้ก็คือพยายามทำความเข้าใจ กับมัน เรียนรู้กับมัน โดยเริ่มต้นที่ตัวเอง ไม่ใช่จากคนอื่น”

แม้ชาคริตจะบอกว่าเขาสร้างนวนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวของปัญหา ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ แต่ผู้อ่านก็ประหวัดถึงท้องถิ่นภาคใต้ของประเทศไทยได้ไม่ยากเย็นนัก นวนิยายเรื่องประเทศใต้นี้จึงเป็นนวนิยายที่สะท้อนปัญหาสังคมท้องถิ่นภาคใต้ ได้อย่างมีชั้นเชิงยิ่ง

กลับ มาที่เส้นทางบนถนนวรรณกรรมของนักเขียนหนุ่มใหญ่จากพัทลุงคนนี้ ชาคริต โภชะเรือง เกิดบนดินแดนถิ่นหนังและโนราห์ วัยเยาว์ผ่าน การเติบโตในครอบครัวที่รักการอ่าน จบปริญญาตรีจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เริ่มสนใจศึกษางานวรรณกรรมอย่างจริงๆ จังๆ ขณะเขียนบทรายการโทรทัศน์ จนปี 2535 มีผลงานตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารลลนา ในเรื่องสั้นชื่อ “อัปสรา...เทวี” ก่อนจะได้รับการประดับช่อการะเกดในเรื่องสั้นลำดับที่ 2 ชื่อ “บ่วง” จากนั้นมีผลงานบทกวี สารคดี และเรื่องสั้น กระจัดกระจายตามหน้านิตยสารต่างๆ มีรวมเรื่องสั้นเรื่องแรกชื่อ “กาหลอ” โดยแพรวสำนักพิมพ์ ก่อนจะมาสร้างชื่ออีกครั้งในเรื่องสั้น “แมงคาเรือง” โดยได้รับรางวัลเรื่องสั้นดีเด่นประจำปี 2549 ของสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย

ปัจจุบันยังชีพด้วยการทำงานเป็นนักวิจัยของสถาบันวิจัยระบบสุขภาพภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเขียนหนังสือหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ

“ประเทศใต้เล่มนี้ ผมใช้เวลาเขียนไม่ต่ำกว่า 5 ปี วิธีเขียนไม่ได้ใช้พล็อตเป็นตัวนำ แต่ใช้วิธีบ่มเพาะความคิดไปเรื่อยๆ ปล่อยให้มันเติบโตไป ไม่อยากเขียนเยอะ พยายามแสดงออกให้น้อย จึงได้เล่มบางๆ อย่างที่เห็น แต่ถึงอย่างนั้นภายใต้ความน้อยของมันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งมันเปิดพื้นที่จินตนาการให้ผู้อ่านให้เข้ามาร่วมกันตามหาบางอย่างที่หาย ไปพร้อมๆ กับผู้เขียนด้วย” ชาคริต กล่าว

สำหรับรางวัลซีไรต์ รางวัลที่เรียกได้ว่าอาจจะเปลี่ยนแปลงสถานะนักเขียนธรรมดา ให้เป็นนักเขียนผู้มีชื่อเสียงได้ในชั่วข้ามคืน ชาคริตนักเขียนจากพัทลุง บอกว่า

“ชีวิตคนเรามีทั้งสิ่งที่เราควบคุมได้กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ อะไรที่ควบคุมได้ เช่นผลงาน เราก็ต้องต่อสู้กับมัน เอาชนะมันให้ได้ ที่เหลือต่อจากนั้นคือการคว้าซีไรต์ เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าการเข้ารอบสุดท้ายครั้งนี้ช่วยเติมกำลังใจให้เราได้เยอะ ทำให้เรามั่นใจในแนวคิดในการทำงานมากขึ้น

ถามว่าหากได้รับรางวัลขึ้นมาจะมีผลต่อการทำงานไหม รางวัลไม่ได้กำหนดการทำงานของผมเพียงอย่างเดียว แรงขับข้างในมากกว่าที่ทำให้ผมรู้ว่าจะเขียนหนังสือไปเพื่ออะไร ถ้ารางวัลอย่างเดียวเป็นแรงขับ เรื่องก็จะไม่มีพลัง สิ่งที่เราควรคิดมากกว่าว่าทำอย่างไรให้หนังสือเราออกมาสมบูรณ์ที่สุด ถ้ามันไปถึงจุดที่เราพอใจ รางวัลก็จะตามมาเอง”

ชาคริต โภชะเรือง 1 ใน 7 นักเขียนที่เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ปี 2552 กล่าวไว้อย่างนั้น

Comment #1
คนผ่านมา
Posted @October,03 2009 19.36 ip : 110...62

ขอบคุณสำหรับบทความครับ พอดีอ่านแล้วสำหรับผมค่อยข้างเข้าใจยากสักนิด

Comment #2
นศ.โดนบังคับทำวิเครา
Posted @October,04 2009 19.59 ip : 110...54

แล้วข้อคิดที่ได้จากเรื่องมีอะไรบ้างคับ ขอมาเปงข้อๆนะคับ (เรื่องประเทศใต้)

Comment #3
วิถีใต้
Posted @February,22 2010 20.41 ip : 117...151

ขอบคุณสำหรับบทความครับ เคยอ่านเรื่องสั้นของชาคริต โภชะเรืองแล้ว เป็นนักเขียนคุณภาพครับ เป็นความภาคภูมิใจของคนภาคใต้ ท่านสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของคนภาคใต้ ได้เห็นถึงแก่น...คนหนึ่งทีเดียว..และขอแสดงความคิดเห็นผ่านไปยังท่านผู้แสดงความคิดเห็นที่ 2 ครับ ท่านเป็นคนไทยที่มีการศึกษา ควรที่จะอนุรักษ์ไว้ซึ่งภาษาเขียนที่ถูกต้องนะครับ ผมอ่านแล้วรู้สึกกังวลกับ การใช้ภาษาเขียนของวัยรุ่นไทยสมัยนี้จัง ...ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวโดยตรงควรศึกษาทบทวนเรื่องราวตรงนี้นะครับ ขอบคุณครับ...

Comment #4
มันแสดงถึงอะไร(ต้องส
Posted @July,03 2010 17.22 ip : 125...169

มันแสดงถึงอะไรว่ะ

แสดงความคิดเห็น

« 4892
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซท์
"ก๊วนปาร์ตี้"
เว็บไซท์นี้เปิดมาเพื่อ เป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับบันทึกเรื่องราว ทางด้านวรรณกรรม ทุกรูปแบบ ท่านสามารถส่งบทความ - เรื่องสั้น - บทกวี เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันอ่าน โดยคลิกส่งได้จากด้านล่างนี้
คลิกเพื่อ >> ส่งบทความ | ส่งเรื่องสั้น | ส่งบทกวี | ปกิณกะ