กระรอกน้อยตัวใหญ่
กระรอกน้อยเจ้ากระโดดไปมา ราวกับรื่นเริงในริบหรี แสงอาทิตย์มืดมิด ผิดธรรมชาติกระรอกน้อยเจ้าสนุกดุจความโสกา ปรารถนาธรรมชาติในวังวน ผจญความจริงที่แปลกปลอมกระรอกน้อยเจ้าเตรียมร่ำลาความจริง สิ่งจารีตควรนับถือ ฤๅจะหันมาเอาใจใส่วิถีที่เคยมีกระรอกน้อยเจ้าหากมิเคยใยดีกับสิ่งผิดถูก หลงระเริงกับเรื่องราว หล
บทกวี : นวัตกรรมใบไม้
ครูหยิบใบไม้มาหนึ่งใบ เป็นใบไม้สีสวยขจีเขียวกว่าเขาจะผลิงามไม่ง่ายเชียวไม่ถึงเสี้ยวนาทีถ้าเด็ดทิ้งระยะกาล เกิด-ดับ ต่างลิบลิ่วเหตุปลิดปลิวสมค่าแล้วทุกสิ่งเช่นแก่หง่อมย่อมหลุดตามเป็นจริงคำตอบน่าจะนิ่งอย่างแน่นอนแต่เหตุดับกับเกิดจากมักง่าย แค่มือป่ายป่วนเล่นเป็นสังหรณ์ไม่ไต
บทบรรณาธิการ ควนป่านาเล 5 ฉบับ : ขอคืนพื้นที่
ทำไมหนอการพัฒนาในนามโครงการของรัฐทั้งหลายแหล่ไม่ว่ายุคไหนสมัยใดมักไม่ใส่ใจรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อชุมชน มินับการใช้อำนาจที่ข่มขู่คุกคามทำร้ายอย่างเถื่อนๆแบบบ้านป่าเมืองเถื่อน ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังมะโกการยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดิน 50 เมตรสุดท้ายของตนที่ขวางแนวทางพาดผ่านของท
นักเลง พ่อ ตา
ไขยืนขบกรามแน่นในมือกำเงินสองพันบาทดวงตาแสดงถึงความอาฆาตแค้นผู้ที่เพิ่งเข้ามาคุยแล้วเดินจากไปโดยไม่ใส่ใจกับอารมณ์ที่เดือดดาลของผู้ที่ยืนอยู่ ไข่เดินกะโผลกกะเผลกเข้าบ้านเมื่อมองแขกผู้มาเยือนจนลับหลังไป กลับมานั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นขณะที่เขาขับรถกลับจากถางหญ้าในสวนยางเพื่อกลับบ้านเหตุเกิดขึ้นบนเนินสูงทางลงจากเนินมีโค้งและมีหญ้าขึ้นรกจนมองถนนฝั่งที่รถสวนมาได้เพียงไม่กี่วา ประกอบกับที่รถของเขาเก่า เบรคมีแต่ทำงานไม่เต็มร้อยอีกทั้งถนนก็เป็นลูกรังโดนน้ำเซาะจนเป็นทางน้ำร่องลึกรถวิ่งได้เพียงเลนส์เดียว เขาจึงตัดสินใจบังคับรถหลีกร่องน้ำไปวิ่งในเลนส์อีกฝั่งของถนน ช่างเวรกรรมอะไรเขานึกในใจ บางวันวิ่งสามสี่รอบก็ไม่เจอซักคัน แต่คราวนี้เค้าเจอมันตรงนี้ตรงที่ไม่มีทางหลีกรถกระบะอีกคันวิ่งสวนมาชนเข้าเต็มๆ ใบหน้าเขาชนกับอย่างหนึ่งของรถกระบะ เขารู้สึกเช่นนั้น คนขับรถลงมาต่อว่าเขาเป็นการใหญ่ ไข่นั่งเงียบเอามือกุมหน้าลูบลงมาสำรวจที่ปากก็เจอแผลเขารู้สึกเจ็บทันทีแต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้ว่าเขาผิดเอง คนขับรถบอกให้นั่งรอให้เขาไปส่งผู้โดยสารก่อนแล้วจึงจะกลับมาพาไปโรงพยาบาล ไข่นั่งรออยู่สักพักก็มีรถวิ่งมาเห็นเขานั่งอยู่ข้างถนนมีรถมอเตอร์ไซด์คว่ำอยู่ใกล้ๆก็เลยอาสาพาไปโรงพยาบาล
ประกาศผลรอบแรกรางวัลซีไรต์และข้อสังเกตของคณะกรรมการ
รางวัลซีไรต์รอบแรกปี 2553 ซึ่งเป็นปีกวีนิพนธ์ ประกาศเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2553 มีหนังสือเข้ารอบแรกจำนวน 6 เล่ม คือ
- ฉันอยากร้องเพลงสักเพลง ของ ศิริวรณ์ แก้วกาญจน์
- เดินตามรอย ของ วันเนาว์ ยูเด็น
- ในความไหวนิ่งงัน ของ นายทิวา
- เมืองในแสงแดด ของ โกสินทร์ ขาวงาม
- ไม่มีหญิงสาวในบทกวี ของ ซะการีย์ยา อมตยา
- รูปฉายลายชีพ ของ โชคชัย บัณฑิต
ตามหา Sleepyo
ช่วยแปลเรื่อง Accicental Toulist แต่งโดยAnne yler และเรื่อง Cry Freedom แต่งโดย John Briley จะสอบค่ะ ด่วนเลยค่ะ
จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่า
จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่าเขาเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของเราเขาเป็นเพื่อน เวียนว่าย อยู่ในวัฎฎสงสาร ด้วยกันกะเราเขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจ กิเลส เหมือนเรา ย่อมพลั้งเผลอไปบ้างเขาก็มีราคะ โทสะ โมหะ ไม่น้อยไปกว่าเราเขาย่อมพลั้งเผลอบางคราว เหมือนเราเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม เหมือนเรา ไม่รู้จักนิพพาน
"เสกสรรค์"ปาฐกถา วันนักเขียน
"การอ่านหนังสือและการเขียนหนังสือ เป็นความเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการยกระดับ หรือการแตกสลายทางจิตวิญญาณของผู้คนในสังคม การที่มนุษย์จะอยู่ร่วมกันได้ สังคมไม่เพียงต้องมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การเมือง ที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ หากยังต้องมีโครงสร้างความคิด จิตใจ และจิตวิญญาณที่เกื้อหนุนการใช้ชีวิตร่วมกันด้วย นักเขียนเป็นผลงานทางวัฒนธรรม เพราะฉะนั้น ภารกิจสร้างสรรค์สังคมในมิตินี้จึงเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้"
เขี้ยวหมูป่า : หนึ่งในเรื่องสั้นสุดยอดในดวงใจ
คงมีคำถามยอดฮิตจากเหล่าแฟนคลับที่บรรดานักเขียนจะต้องตอบอยู่ไม่กี่คำถาม และหนึ่งในนั้นก็คือหนังสือในดวงใจ หรือเรื่องสั้นในดวงใจ
ผมเองคงต้องคิดนานเหมือนกัน หากจะต้องหาคำตอบเพราะว่ามีอยู่ไม่น้อยเลย แต่ที่นึกได้ในขณะนี้และพอจะจำเรื่องราวได้ก็คือ เรื่องสั้นที่ชื่อ “เขี้ยวหมูป่า” ของไพบูลย์ สุวรรณกูฏ
ผมเชื่อว่าหลายคนอาจไม่คุ้นชื่อนี้ หรือไม่รู้จักเลยก็ว่าได้
แต่ถ้าเป็นศิษย์เก่าศิลปากร หรือบรรดาคนชอบศิลปะ จิตรกรรม หรือจิตรกรรมไทยแล้วไซร้ ชื่อนี้คงคุ้นหูเป็นอย่างดี